🕉️The Spirit of India : Ganesh Chaturthi🎉
คเณศจตุรถี – มุมไบ – ถ้ำอชันตา – เอลโลร่า
รู้หรือไม่? ในประเทศอินเดียนอกจากเทศกาลสาดสีโฮลีแล้วนั้น ยังมีอีกหนึ่งเทศกาลอย่าง “คเณศจตุรถี” ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองการประสูติของพระพิฆเนศ ตรงกับช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนตามปฏิทินของอินเดีย
โดยชาวอินเดียจะมีการสร้างเทวรูปพระพิฆเนศด้วยดินเหนียวแล้วประดิษฐานไว้ทั่วบ้านทั่วเมือง พร้อมสร้างซุ้มประดับรายล้อมด้วยดอกไม้สวยงาม จากนั้นในวันสุดท้ายของเทศกาล พวกเขาจะนำเทวรูปพระพิฆเนศที่ปั้นไปลอยที่แม่น้ำหรือทะเล โดยระหว่างทางเต็มไปด้วยขบวนดนตรีและบทสวดตลอดเส้นทาง
…ซึ่งเทศกาลคเณศจตุรถีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ที่ “เมืองมุมไบ” โดยแต่ละปีจะมีการนำเทวรูปพระพิฆเนศลงน้ำมากถึง 150,000 องค์ ถือเป็นอัญมณีที่หารับชมได้ยากยิ่ง…
วันที่ 12 – 18 กันยายน ปี 2024 นี้! เราจะขอนำพาท่านไปสัมผัสบรรยากาศของเทศกาลคเณศจตุรถีอันเป็นสิริมงคลนี้ ตลอดทางท่านจะได้พบเจอ “ประสบการณ์แปลกใหม่” ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์แอบแฝงอยู่ และนี่คือ “อีกหนึ่งเทศกาล” ของโลกที่น้อยคนนักที่เข้าถึงและได้สัมผัสด้วยตัวเอง
ยังไม่พอแค่นั้น! ทัวร์รอบนี้ท่านจะได้ผจญภัยในสถานที่ Unseen ของอินเดีย ซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา ความสวยงามอันวิจิตรของศิลปะอินเดีย รวมถึง “ความรู้ทางประวัติศาสตร์” แบบถึงแก่น เพื่อรับประสบการณ์ที่แตกต่าง และทำให้เข้าใจ “ความเป็นอินเดีย” มากยิ่งขึ้น
เรามาดูกันดีกว่าครับว่า “ทำไม” ต้องไปงานเทศกาลคเณศจตุรถี กับ The Wild Chronicles
ทริปนี้เราจะขอนำพาท่านไปสัมผัสบรรยากาศของเทศกาลสิริมงคลนี้ ตลอดทางท่านจะได้พบเจอ “ประสบการณ์แปลกใหม่” ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์แอบแฝงอยู่ และนี่คือ “อีกหนึ่งเทศกาล” ของโลกที่น้อยคนนักที่เข้าถึงและได้สัมผัสด้วยตัวเอง
🎊🙏🏻เราจะพาทุกท่านไปร่วมงาน “คเณศจตุรถี” ภายในงานจะมีพิธีกรรมที่ชื่อว่า “อาระตี” หรือพิธีกรรมบูชาด้วยโคมไฟ ซึ่งเป็นการสวดมนต์เพื่อแสดงออกถึงความรัก ความเมตตา ความกตัญญู การอธิษฐาน หรือความปรารถนาต่อเทพเจ้า
รวมถึงท่านจะได้ร่วมขบวนแห่ “วิซารจาน” หรือพิธีอัญเชิญพระพิฆเนศกลับเขาไกรลาศ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญของเทศกาล โดยมักจะจัดขึ้นในวันสุดท้ายของงาน โดยการแห่จะแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของคนในพื้นที่และความเคารพต่อเทพเจ้าอย่างแรงกล้า
🪷🎋ไม่เพียงแค่นั้น! ท่านจะได้ชม “ปานดัล” หรือซุ้มที่เป็นโครงสร้างทำจากไม้ไผ่ ไม้ และผ้า จากนั้นตกแต่งด้วยดอกไม้มากมาย เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานเทวรูปของเทพเจ้าฮินดูในช่วงเทศกาลคเณศจตุรถี ซึ่งส่วนใหญ่นำต้นแบบแรงบันดาลใจมาจากเทพนิยายของอินเดีย
อีกทั้งจะมีผู้ศรัทธานำขนมมาถวาย เช่น โมทกะ (ขนมโปรดของพระพิฆเนศ) มะพร้าว ผลไม้ และดอกไม้ รวมถึงยังมีการขายโมทกะและขนมอื่นๆ ตามแผงขายของรอบปานดัลอีกด้วย
⛔️หมายเหตุ : หากท่านใดต้องการเข้าร่วมงานในวันสุดท้ายของเทศกาลคเณศจตุรถี อาจต้องใช้เวลาเดินเท้า ไป-กลับ ประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากห้ามนำรถเข้า
🛒🛍️ซึ่งถ้าท่านใดไม่ประสงค์ที่จะไปร่วมงาน เรามีทางเลือกให้ครับ! นั่นคือช็อปปิ้งในห้างฟีนิกซ์นั่นเอง การันตีแอร์เย็นฉ่ำ และซื้อของฝากได้อย่างจุใจครับ
นอกจากนี้ท่านจะได้ผจญภัยในสถานที่ Unseen ของอินเดีย ซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา ความสวยงามอันวิจิตรของศิลปะอินเดีย รวมถึง “ความรู้ทางประวัติศาสตร์” แบบถึงแก่น เพื่อรับประสบการณ์ที่แตกต่าง และทำให้เข้าใจ “ความเป็นอินเดีย” มากยิ่งขึ้น
🛶🗿ท่านจะได้ล่องเรือไปชม “ถ้ำเอเลแฟนตา” ที่นี่เป็นกลุ่มวัดถ้ำโบราณที่ตั้งอยู่บนเกาะเอเลแฟนตา โดยคาดว่าสร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 5 – 8 จุดเด่นคือประติมากรรมและงานแกะสลักด้วยการเจาะหินอันงดงาม เพื่ออุทิศให้กับพระศิวะ รวมถึงได้รับเลือกเป็นแหล่งมรดกโลกของ UNESCO อีกด้วย
🚪👑ตื่นตากับ “ประตูชัยอินเดีย” ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์รำลึกถึงการเสด็จเยือนอินเดียของกษัตริย์อังกฤษพระองค์แรกอย่าง พระเจ้าจอร์จที่ 5 และ พระราชินีแมรี ในปี 1911 โดยประตูนี้ออกแบบแนวสถาปัตยกรรมฮินดูและมุสลิม ร่วมกับอิทธิพลแบบโกธิกและนีโอคลาสสิก ซึ่งเป็นสไตล์ที่นิยมในครั้งสมัยอินเดียอยู่ภายใต้อาณานิคมอังกฤษ
🚂🏫ชม “สถานีรถไฟฉัตรปติ ศิวาจี” สถานที่ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกของ UNESCO เดิมชื่อว่า สถานีรถไฟวิกตอเรีย เนื่องจากสร้างเสร็จสิ้นตรงกับวันฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ของ สมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย เมื่อปี 1887
โดยต่อมาได้เปลี่ยนชื่อใหม่ตามปฐมกษัตริย์แห่งจักรวรรดิมราฐาอย่าง “จักรพรรดิศิวาจี” ซึ่งพระองค์เป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อแนวคิดชาตินิยมต่อ มหาตมา คานธี และนักสู้เพื่ออิสรภาพชาวอินเดียอีกหลาย ๆ คน
🚲📦ทุกท่านจะได้พบเจอกับ “ดับบาวาลาส” หรือวิถีชีวิตของคนส่งปิ่นโต โดยจะเป็นระบบการจัดส่งปิ่นโตหรือกล่องอาหารกลางวันที่มีมาตั้งแต่ปี 1890 และจะมีการจัดการส่งปิ่นโตประมาณ 200,000 กล่องต่อวันเลยทีเดียว!
…โดยระบบนี้มีประสิทธิภาพอย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะทั้งแม่นยำ ส่งไม่เคยพลาด แถมตรงเวลาอีกด้วย… (พวกเขาจะสร้างสัญลักษณ์ช่วยจำขึ้นมา ทำให้ประสิทธิภาพดีเยี่ยม)
🧺🧼รวมถึงตื่นตากับ “ลานซักผ้าโดบีกาต” ..นี่คือหนึ่งในลานซักผ้ากลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก! … โดยที่นี่มีการซักเสื้อผ้าหลายพันชิ้นทุกวัน และมีแปรงซักผ้าประมาณ 700 อัน จากนั้นจะมีการนำเสื้อผ้าที่ซักแล้วไปตากบนราว ทอดยาวไปทั่วบริเวณ ซึ่งหากมองมาจากด้านบนจะมองเห็นเสื้อผ้าหลากสีสัน ดูสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ
🏰🏛️ชม “พิพิธภัณฑ์เจ้าชายแห่งเวลส์” หรือพิพิธภัณฑ์ ฉัตรปติ ศิวาจีมหาราช ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การเสด็จเยือนอินเดียของเจ้าชายแห่งเวลส์ (ต่อมาคือพระเจ้าจอร์จที่ 5) ซึ่งที่นี่มีจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปะ โบราณคดี และภายในเก็บรักษาโบราณวัตถุมากกว่า 70,000 ชิ้น!
🐟⚓️ท่านจะได้รับชม “ชุมชนชาวประมง มาฮิม มัคชิมาร์นคร” หรือในท้องถิ่นเรียกว่า “โคลิวาดาส” ที่นี่เป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงแบบดั้งเดิมของมุมไบ ซึ่งพวกเขามีทักษะการตกปลาที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ผสมผสานเข้ากับเทคนิคสมัยใหม่ เรียกว่าน่ารับชมอย่างยิ่ง
🌃🥂เยือน “ย่านโคลาบา” เป็นหนึ่งในย่านที่มีชีวิตชีวาที่สุดของมุมไบ ที่นี่ประกอบไปด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ตลาดที่คึกคัก สถานบันเทิงยามค่ำคืน และริมน้ำที่สวยงาม …มันช่างเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเหลือเกิน…
🛖🗿เราจะนำทุกท่านเดินทางไป “ถ้ำอชันตา” ซึ่งเป็นวัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกของ UNESCO ที่นี่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 2-6 และได้รับการอุปถัมภ์จากพระภิกษุ พ่อค้า รวมถึงกษัตริย์มาโดยตลอดหลายทศวรรษ
โดยตัวถ้ำแกะสลักจากหิน และมีห้องกว่า 30 ห้อง ประกอบด้วยอาราม วิหาร ห้องสวดมนต์ อีกทั้งถ้ำบางแห่งยังถูกใช้เป็นที่พำนักของพระภิกษุอีกด้วย จุดเด่นคือภายในตกแต่งด้วยภาพวาดฝาผนังและลวดลายเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
🛖🗿เราจะพาท่านไป “ถ้ำเอลโลร่า” หนึ่งในแหล่งมรดกโลกของ UNESCO ซึ่งมีสถาปัตยกรรมแกะสลักสุดวิจิตรบรรจง ผสมผสานศิลปะของศาสนาฮินดู พุทธ และเชนอย่างมีเอกลักษณ์อยู่ที่นี่ โดยถ้ำเอลโลราถูกเจาะเป็นแนวดิ่งจากเนินเขาชารานันดรี แสดงให้เห็นถึงทักษะทางวิศวกรรมและศิลปะขั้นสูงอย่างมากของสถาปนิกในยุคนั้น
โดยภายในสถานที่มีถ้ำมากกว่า 34 ห้อง แบ่งเป็นวัดและสำนักสงฆ์ของแต่ละศาสนา ทั้งศาสนาพุทธ 12 แห่ง (ถ้ำ 1-12), ศาสนาฮินดู 17 แห่ง (ถ้ำ 13-29) และศาสนาเชน 5 แห่ง (ถ้ำ 30-34) ซึ่งไฮไลท์คือถ้ำ “ไกรลาศมนเทียร” ที่ได้รับการขนานนามว่า “จุดสูงสุด” ของยุคเจาะหินแห่งสถาปัตยกรรมอินเดีย
🏰⛰️ร่วมตกตะลึงกับ “ป้อมโบราณดัลลาตาบัด” สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยกษัตริย์บิลลามาที่ 5 แห่งราชวงศ์ยาดาวา ป้อมนี้ถือเป็นด่านหน้าทางทหารที่สำคัญในอดีต เนื่องจากสร้างอยู่บนเนินเขาสูงกว่า 200 เมตร จึงทำให้ได้เปรียบในการป้องกันศัตรู อีกทั้งมีทางเข้าซับซ้อนหลายทาง และยังมีคูน้ำลึกล้อมรอบป้อม ซึ่งสามารถเติมน้ำหรือปล่อยให้แห้งได้ดั่งใจต้องการ
🌊🌴ชม “บันดรา แบนด์สแตนด์” เส้นทางเดินเล่นที่ขึ้นชื่อว่าทิวทัศน์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยบรรยากาศผู้คนพลุกพล่าน ดูมีชีวิตชีวา ทางเดินริมทะเลเรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม มองเห็นทิวทัศน์ของทะเลอาหรับ ทำให้เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการพักผ่อนอย่างมาก
🏝️⛱️และ (หากมีเวลาเหลือ) เราจะพาไปเดินเล่นที่ “หาดจูฮู” หนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในมุมไบ จุดเด่นคือหาดทรายที่ทอดยาวไปตามทะเลอาหรับ บอกเลยว่าน่ารับชมเป็นอย่างยิ่ง
โดยทริปนี้ผม (ปั๊บ เจ้าของเพจ The Wild Chronicles) จะออกนำทัวร์เดินทางไปด้วยตัวเอง ขอรับรองเลยว่าท่านจะได้ทั้งความสนุกและได้ความรู้เต็มอิ่มตลอดทั้งทริปอย่างแน่นอน!😆
…อย่าช้ารีบจองเลย!…
โดยสรุปแล้ว ทัวร์อินเดียของเราที่จะพาทุกท่านเดินทางไปนั้น นอกจากจะพาท่านไปงานเทศกาลที่มีเพียงครั้งเดียวในรอบปีแล้ว …เราได้มีการสอดแทรกสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบอินเดียอย่างถึงลูกถึงคน แต่แน่นอนว่าเรายังจัดแบบคอนเซ็ปท์ “กินหรูอยู่สบาย” ตามสไตล์ The Wild Chronicles เช่นเคย…
ด้วยทุกอย่างที่กล่าวมานั้น ทางเราจึงเชื่อมั่นว่า “ทัวร์อินเดีย” ของเราจะเป็น “ทัวร์ดีมีของ” สำหรับ “นักผจญภัยที่ไม่ธรรมดา” อย่างทุกท่านแน่นอนครับ!
👉 ท่านใดสนใจ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรเบอร์ 082-894-8444 หรือขอโปรแกรมโดยแอดไลน์ https://lin.ee/fNEO1jr และพิมพ์ว่า “สนใจทัวร์คเณศจตุรถี” ครับ 👈
🎈 บริษัท The Wild Chronicles ใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่ 11/10382 🎈