ราคาเริ่มต้น : 129,900 บาท
จองทัวร์

ทัวร์โมร็อกโก (Morocco : Sand of Legends)

Morocco
Not Rated
Duration

12 วัน, 9 คืน

Tour Type

Specific Tour

Group Size

25 people

🏜️ Grand Morocco: Sand of Legends 🐪

ปี 2025 นี้! The Wild Chronicles ขอพาท่านเดินทางไป “โมร็อกโก” เพื่อสัมผัสเรื่องราวตำนานมากมายในดินแดนนี้ ทัวร์ไม่จอยกรุ๊ป ไม่ชะโงก อะไรควรดูอยู่ดูนานขึ้น อะไรอยู่นอกเส้นทางปกติแต่ควรสัมผัสจะได้ไปสัมผัส มีคุณปั๊บเป็นวิทยากรประวัติศาสตร์นำเอง 🥰

🤩4 เหตุผลที่ต้องมาทัวร์โมร็อกโก (Morocco) กับ The Wild Chronicles🤩

วิทยากรคุณภาพคับแน่น

แต่ละทัวร์ของเราออกเดินทางร่วมกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์พร้อมประสบการณ์นำเที่ยวกว่า 10 ปี เพื่อพาทุกท่านไปพบความรู้แปลกใหม่ ในสถานที่ที่ซ่อน “ความไม่ธรรมดา” เอาไว้มากมาย

เก็บครบไฮไลท์ทัวร์ที่ดีที่สุด

โปรแกรมของเราการันตีว่า "ดีที่สุด" แน่นอน! อีกทั้งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของสถานที่เหล่านั้นอย่างลึกซึ้ง เพื่อรับประสบการณ์ที่แตกต่าง และสัมผัสบรรยากาศแบบใหม่ที่อาจไม่เคยลิ้มลอง

เรื่องราวประวัติศาสตร์ครบถ้วน

ประวัติศาสตร์ที่ซ่อนเร้นอยู่ในแต่ละสถานที่ ซึ่งเราจะนำมากล่าวขานให้ท่านได้ฟังแบบ "สรุปเข้าใจง่าย" รับรองว่าท่านจะได้รับความรู้อย่างเต็มที่แน่นอน

ประสบการณ์สุดพรีเมี่ยม

ทางเราจัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้ท่านเสมอตามสไตล์ The Wild Chronicles ทางเราจึงเชื่อมั่นว่าจะเป็น “ทัวร์ดีมีของ” สำหรับนักผจญภัยที่ไม่ธรรมดาอย่างทุกท่านแน่นอนครับ!

Chefchaouen
Sahara Desert
Rabat
Ait Ben Haddou
Chellah
สถานที่สุดพีกอีกมากมาย!
Previous slide
Next slide

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

รู้หรือไม่? ในแอฟริกาเหนือ ยังมีดินแดนที่ทอดตัวอยู่ระหว่างทะเลทรายซาฮารา เทือกเขาแอตลาส และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประเทศนั้นคือโมร็อกโก… ชาวโมร็อกโกมีทั้งสายเลือดแห่งชนเผ่าทะเลทรายที่แน่นแฟ้นกับธรรมชาติ และยังมีส่วนสำคัญสร้างอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ระดับมหาอำนาจของโลก อันเป็นต้นแบบของศิลปะและสถาปัตยกรรม “มัวร์” หรือ “มัฆริบ” ที่แพร่กระจายอยู่ทั่วแอฟริกาเหนือรวมไปถึงสเปน

ปี 2025❗The Wild Chronicles ขอพาท่านเดินทางไป “โมร็อกโก” เพื่อสัมผัสเรื่องราวตำนานมากมายในดินแดนนี้ ทัวร์ไม่จอยกรุ๊ป ไม่ชะโงก อะไรควรดูอยู่ดูนานขึ้น อะไรอยู่นอกเส้นทางปกติแต่ควรสัมผัสจะได้ไปสัมผัส มีคุณปั๊บเป็นวิทยากรประวัติศาสตร์นำเอง

🐫 เดินทางสู่ กรุงราบัต (Rabat) เมืองหลวงอันสวยงามของราชอาณาจักรโมร็อกโก ซึ่งตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก กรุงราบัตถือกำเนิดขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยสุลต่านแห่งราชวงศ์อัลโมฮัด เมืองแห่งนี้จึงกลายเป็นศูนย์กลางการบริหารของประเทศ และได้รับการแต่งตั้งเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการในปี 1912 จนถึงปัจจุบัน

Rabat

🐫 เยี่ยมชม สุสานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 (Mausoleum of Mohammed V) สุสานแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1961 เพื่อเป็นเกียรติแก่กษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 ผู้เรียกร้องเอกราชของโมร็อกโกคืนจากฝรั่งเศส ภายในอาคารมีสถาปัตยกรรมแบบโมร็อกโก-มัวร์ ที่งดงาม ประดับด้วยหินอ่อนสีขาว เสาแกะสลักด้วยความประณีต

Mausoleum of Mohammed V

🐫 เยี่ยมชม หอขานฮัสซัน (Hassan Tower) หอนี้เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1195 โดยตั้งใจให้เป็นหอขาน (หรือหอสูงของมุสลิมใช้เรียกคนมาทำละหมาด) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เวลานั้น แต่การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ทำให้หอขานมีความสูงเพียง 44 เมตรจากที่ตั้งใจจะให้หอขานสูงถึง 86 เมตร แม้จะสร้างไม่เสร็จ แต่รากฐานของความทะเยอทะยานของหอขานแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์อัลโมราวิด

Hassan Tower

🐫 เดินชม “ป้อมปราการอูไดอาส” (Kasbah Les Udayas) ป้อมปราการโบราณแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยราชวงศ์อัลโมฮัด และยังเคยถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของกลุ่มโจรสลัดจนถึง ศตวรรษที่ 18 ภายในป้อมปราการมีสิ่งปลูกสร้างและสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย เช่น ประตูอูไดอาส และมีย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่อันสวยงามอยู่ด้านใน

Kasbah Les Udayas

🐫 เยี่ยมชมเมืองโบราณเชลลาห์ (Chellah) ที่มีประวัติยาวนานและมีอารยธรรมซ้อนทับกันนับพันชั้น สืบทอดตั้งแต่ยุคฟีนีเชียนจนถึงยุคปัจจุบัน โดยมีผู้คนอยู่อาศัยใช้สอยโดยไม่ขาดตอน จุดที่น่าสนใจคือซากถนนแบบโรมัน ซากวิหาร โรงอาบน้ำและสุสานหลวงของราชวงศ์มารินิด อีกทั้งเมืองโบราณแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

Chellah

🐫 เดินทางต่อสู่ “เมืองเชฟชาอูน” (Chefchaouen) เชฟชาอูนเป็นที่รู้จักในสมญานาม “ไข่มุกสีน้ำเงินแห่งโมร็อกโก” เมืองแห่งนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1471 จากป้อมปราการเล็กๆ เพื่อต่อสู้กับการรุกรานของโปรตุเกส ต่อมาซัยยิดะฮ์ อัล ฮุรเราะฮ์ ราชินีโจรสลัดที่มีชื่อเสียงในด้านความงามและความเก่งกาจได้ขึ้นครองเมืองนี้ เธอบัญชาการการปล้นเรือสินค้าชาวคริสต์จากยุโรป จนทำให้ชาวตะวันตกหวั่นเกรงอำนาจของเธอ อีกทั้งเมืองเชฟชาอูนเป็นที่พำนักแห่งสุดท้ายของราชินีโจรสลัดหลังจากที่เธอประกอบวีรกรรมมากมายอีกด้วย

Chefchaouen

🐫 พาท่านเดินชมย่านเมืองเก่า “เมดินาแห่งเมืองเชฟชาอูน” (Medina of Chefchaouen) เป็นย่านบ้านเรือนที่ทาด้วยสีน้ำเงินฟ้า ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านค้า งานฝีมือ พรม เครื่องหนัง และของที่ระลึกในร้านเล็ก ๆ ตลอดทางตามพื้นที่ไหล่เขา ย่านเมืองนี้เป็นดั่งสวรรค์ของผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพ เพราะเต็มไปด้วยมุมที่สามารถถ่ายรูปออกมาได้อย่างสวยงามโดดเด่น

Medina of Chefchaouen

🐫 เดินทางสู่ มืองเม็กเนส” (Meknes) เป็นเมืองหลวงในยุคสมัย กษัตริย์มูเล่ อิสมาอิล แห่งราชวงศ์อาลาวิด ซึ่งเป็นกษัตริย์ลูกผสมผิวดำ ภายใต้การปกครองของพระองค์ เม็กแนสถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการก่อสร้างอาคารราชวัง กำแพงเมือง และประตูเมืองขนาดมหึมาอย่างอลังการ จนได้รับฉายาว่า “แวร์ซายส์แห่งโมร็อกโก”

🐫 เยี่ยมชม บับ มันซูร์ (Bab Mansour) หรือ ซุ้มประตูแห่งชัยชนะ ประตูเมืองขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของจัตุรัสเอล-เฮดิมในเมืองเม็กแนส สร้างขึ้นในต้นศตวรรษที่ 18 เพื่อเป็นทางเข้าหลักสู่เขตราชวัง ประตูนี้ได้รับการนับถือโดยทั่วไปว่าเป็นสุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมมัวร์

Bab Mansour

🐫 เยี่ยมชม โบราณสถานโวลูบิลิส (Volubilis) ก่อตั้งขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล และเคยเป็นด่านหน้าอันสำคัญของจักรวรรดิโรมัน ปัจจุบันยังคงหลงเหลือซากเมืองโรมันโบราณ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญของการตั้งถิ่นฐานของจักรวรรดิโรมันในแอฟริกาเหนือ ด้วยความที่เมืองถูกทิ้งร้างมานานเกือบพันปี ทำให้แหล่งนี้ยังคงรักษา “ศิลปะดั้งเดิม” ได้อย่างดีเยี่ยม

Volubilis

🐫 เดินทางสู่ “เมืองเฟส” (Fez) อดีตหนึ่งในสี่เมืองหลวงของโมร็อกโก เมืองเฟสก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 789 โดย กษัตริย์อิดริสที่ 1 (Idris I) แห่งราชวงศ์อิดริสิด ซึ่งปัจจุบันเมืองเฟสคงรักษาเอกลักษณ์ของเมืองประวัติศาสตร์ไว้ได้ และกลายเป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยว

🐫 พาเดินดูตลาดหรือ ซูค (Souks) ซูคของเมืองเฟสมีชื่อเสียงในการมีเป็นเส้นทางแคบๆ มากมาย ที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าเล็กใหญ่ที่เรียงรายติดกัน มีตั้งแต่ ร้านเครื่องหนัง ร้านขายเครื่องเทศ หรือแม้แต่ลานทำพรม ความเก่าแก่ชองซูคและย่านเมืองเก่าเฟส ทำให้มันได้รับสถานะมรดกโลกจากองค์การ UNESCO

🐫 แวะชม “สุสานของกษัตริย์ มูเล อิดริสที่ 2” (Moulay Idriss Mausolem II) กษัตริย์อิดริสที่ 2 เป็นผู้สถาปนาเมืองเฟสให้เป็นเมืองหลวงของราชวงศ์อิดริสิด ซึ่งถือเป็นราชวงศ์มุสลิมสายเลือดตรงจากท่านศาสดามูฮัมหมัด ผ่านหลานของท่าน และเป็นราชวงศ์แรกที่นับถืออิสลามของโมร็อกโก

เขาได้รับการเคารพบูชาอย่างสูงจากชาวโมร็อกโก เชื่อกันว่าท่านเป็นผู้ปกป้องเมืองจากภัยพิบัติและนำศรัทธาอิสลามมายังภูมิภาคนี้ สุสานของพระองค์จึงกลายเป็นศูนย์กลางแห่งความศรัทธาของชาวมุสลิมในประเทศ และมีความเชื่อว่าหญิงสาวชาวมุสลิมที่แต่งงานแล้วยังไม่สามารถมีบุตรได้ก็มักจะมาขอพรกันที่นี่

🐫 เยี่ยมชม มัสยิดและมหาวิทยาลัย อัล เกาะเราะวียีน (Al-Qarawiyyin Mosque and University) มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 859 โดย ฟาติมะห์ อัล-ฟิห์รี และถือเป็น มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังเปิดสอนอยู่ มัสยิดและมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่ศาสนาอิสลาม วิทยาศาสตร์ ปรัชญา และคณิตศาสตร์ในโลกอาหรับและยุโรปยุคกลาง

🐫 เดินชม “โรงฟอกหนังฮัวรา” (Chouara Tannery) เป็นหนึ่งในไฮไลท์เมืองเฟส โรงฟอกหนังแห่งนี้เป็นโรงฟอกที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง และยังคงใช้วิธีการดั้งเดิมมาเกือบพันปี ท่านได้มาชมโรงฟอกหนังแห่งนี้ ท่านสามารถรับชมกระบวนการฟอกหนังแบบดั้งเดิมที่ถูกรักษาไว้ ซึ่งถือเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของที่นี่

Chouara Tannery

🐫 เยี่ยมชม บับ บู เจอลูด (Bab Bou Jeloud) หรือที่รู้จักกันว่า “ประตูฟ้า” ประตูเมืองอันโด่งดังซึ่งเป็นทางเข้าสู่ย่านเมืองเก่า ประตูนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1913 ในสมัยอาณานิคมฝรั่งเศส โดยใช้ศิลปะผสมผสานระหว่างอาหรับและมัวร์ ด้านนอกประตูประดับด้วยกระเบื้องโมเสกสีฟ้า ส่วนด้านในใช้สีเขียว มีลักษณะประตูเป็นโค้งซุ้มเกือกม้าแหลม

Bab Bou Jeloud

🐫 เยี่ยมชม โบสถ์ยิวอาเบน ดานัน (Aben Danan Synagogue) ที่นี่เป็นโบสถ์ยิวออร์โธดอกซ์ ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 สถาปัตยกรรมของที่นี่มีความเรียบง่ายและกลมกลืน ประตูทางเข้าเป็นเพียงประตูเรียบๆ ที่แทบไม่แตกต่างจากประตูบ้านใกล้เคียงกัน ซึ่งมีบรรยากาศภายในดูสงบและลึกลับ

🐫 พาชม พระราชวังหลวงแห่งเฟส (Royal Palace of Fez) ซึ่งเป็นพระราชวังของกษัตริย์โมร็อกโกองค์ปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้แม้จะไม่เปิดให้เข้าชมภายใน แต่ด้านหน้าของพระราชวังถือเป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพที่สวยที่สุด ด้วยประตูทองเหลืองขนาดใหญ่เจ็ดบาน ซึ่งเป็นตัวแทนของวันทั้งเจ็ดในสัปดาห์ ประตูเหล่านี้ถูกแกะสลักและประดับด้วยกระเบื้อง และไม้ฉลุอันประณีต สะท้อนความงดงามของงานศิลป์ราชสำนักโมร็อกโก

Royal Palace of Fez

🐫 เดินสู่ “เมืองอิเฟรน” (Ifrane) เมืองที่ได้รับสมญานามว่า “สวิตเซอร์แลนด์แห่งโมร็อกโก” อิเฟรนตั้งอยู่บนที่ราบสูงแอตลาสตอนกลาง เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1929 ในยุคที่ฝรั่งเศสยังปกครองโมร็อกโก โดยออกแบบให้เป็นเมืองตากอากาศของชาวยุโรป สถาปัตยกรรมของเมืองจึงแตกต่างจากเมืองอื่นในโมร็อกโกอย่างชัดเจน เหมือนหลุดเข้ามาในหมู่บ้านของชาวยุโรปตะวันตกแม้อยู่ใกล้ทะเลทรายมากก็ตาม

🐫 ขับผ่าน หุบเขาซีซ (Ziz Valley) หุบเขาที่ทอดยาวผ่านภูเขาแอตลาสตะวันออกเฉียงใต้ เกิดจากแม่น้ำซีซที่ไหลผ่านเทือกเขาและสร้างภูมิประเทศแบบโอเอซิสกลางทะเลทรายที่นับว่า “ที่สวยที่สุดของโมร็อกโก”

Ziz Valley

🐫 นําท่านนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อ สู่ “ทะเลทรายซาฮารา” (Sahara Desert) ทะเลทรายซาฮาราคือทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 9 ล้านตารางกิโลเมตรครอบคลุมถึง 11 ประเทศ ขนาดเกือบเทียบเท่าทวีปยุโรปทั้งทวีป โดยทะเลทรายซาฮาราคลุมพื้นที่โมร็อกโกทางตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด ผืนทรายแห่งนี้เป็นทางผ่านของอารยธรรมและการค้าในแอฟริกาเหนือมายาวนานหลายพันปี

Sahara Desert

🐫 เดินทางสู่ หุบเขาทอดร้า (Todra Groge) หุบเขาขนาดมหึมาในแนวเทือกเขาแอตลาส มีรูปลักษณ์ที่ดูสวยงามและแปลกตาจากการกัดกร่อนด้วยแรงลมและสายฝน ลักษณะเด่นของหุบเขาแห่งนี้คือ ผนังหินสูงเท่ากับตึก 40 ชั้น โดยบางช่วงของเส้นทางมีแม่น้ำเล็ก ๆ และทางเดินแคบ ๆ

Todra Groge

🐫 เดินทางสู่ “เมืองวอร์ซาเซ็ท” (Ouarzazate) เมืองที่ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาแอตลาส เมืองแห่งนี้ได้รับฉายาว่า “ประตูสู่ทะเลทราย” ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาแอตลาสสูงและทะเลทรายซาฮารา เป็นเมืองที่นักเดินทางนิยมใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการออกท่องทะเลทราย

🐫 เยี่ยมชม “หมู่บ้านไอท์ เบน ฮัดดู” (Ait Ben Haddou) หมู่บ้านแห่งนี้สร้างจากหมู่เคสบาห์หรือป้อมปราการแบบเบอร์เบอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโมร็อกโก เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมดินเหนียวของโมร็อกโก และมีสถานะเป็นมรดกโลก UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1987 อีกด้วย

Ait Ben Haddou

🐫 เยี่ยมชม โบสถ์ยิวเก่าแห่งตาโอริร์ต (The Old Synagogue of Taourirt) ตั้งอยู่ในเมืองตาโอริร์ต โบสถ์แห่งนี้คือหลักฐานสำคัญของชุมชนชาวยิวอามาซีฆ (Amazigh Jews) หรือก็คือชาวเบอร์เบอร์ที่รับอิทธิพลจากชาวยิวที่อพยพมาโมร็อกโกในอดีต

🐫 เดินทางสู่ “เมืองมาร์ราเกช” (Marrakech) เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ถูกสร้างและตั้งเป็นเมืองหลวงโดยราชวงศ์อัลโมราวิดในปี ค.ศ. 1070 ชื่อของเมืองในภาษาเบอร์เบอร์หมายถึง “แผ่นดินของพระเจ้า” (Land of God) และเมืองแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของชื่อประเทศ “โมร็อกโก” ในภาษาอังกฤษ (เรียกเพี้ยนไปจากมาร์ราเกช)

🐫 ชม “สวนฌาร์แดง มาชอแรล” (Jardin Majorelle) หรือ “สวนอีฟว์ แซ็ง โลร็อง” (Yves Saint Laurent Gardens) สวนแห่งนี้ถูกสร้างโดยศิลปินชาวฝรั่งเศส ฌาร์แดง มาชอแรล ในปี 1923 แล้วต่อมาได้รับการบูรณะและอนุรักษ์โดยดีไซเนอร์ระดับโลก อีฟว์ แซ็ง โลร็อง ภายในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณที่มีสีสันชวนสะดุดตา

Jardin Majorelle

🐫 เยี่ยมชม “พระราชวังบาเฮีย” (Bahia Palace) พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 19 โดย ซี มูซา (Si Moussa) อุปราชที่มีอำนาจมาก ซึ่งต่อมาวงศ์ของเขาจะสามารถควบคุมโมร็อกโก เชิดกษัตริย์เป็นหุ่นอยู่ระยะหนึ่ง วังนี้ถูกต่อขยายโดยตั้งใจว่าตั้งใจจะให้เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุดในยุคนั้น

Bahia Palace

🐫 เยี่ยมชมสวนลับ เลอ ฌาร์แด็ง (Le Jardin Secret) สวนลับกลางเมืองเก่ามาร์ราเกชแห่งนี้เคยเป็นบ้านพักของขุนนางในศตวรรษที่ 19 ที่ถูกทิ้งร้างไปก่อนจะได้รับการบูรณะในเวลาต่อมา สวนแห่งนี้ผสมผสานภูมิปัญญาสวนเปอร์เซีย กับสถาปัตยกรรมมัวร์ได้อย่างกลมกลืน

Le Jardin Secret

🐫 พาท่านดูโดมแห่งราชวงศ์อัลโมราวิด (Almoravid Koubba) เป็นอนุสรณ์สถานขนาดเล็กในเมืองมาร์ราเกชสร้างขึ้นโดยราชวงศ์อัลโมราวิดในช่วงต้นศตวรรษที่ 12 เป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและเป็นสิ่งที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งของสถาปัตยกรรมอัลโมราวิดในเมืองมาร์ราเกช โดยอาคารแห่งนี้ใช้สำหรับพิธีชำระล้างร่างกายก่อนการละหมาด

🐫 เยี่ยมชม “วิทยาลัยมาดราซาเบน ยูซุฟ” (Madrasa Ben Youssef) หนึ่งในสถาบันสอนศาสนาอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาเหนือ วิทยาลัยนี้ตั้งชื่อตามมัสยิดเบนยูซุฟ ที่อยู่ติดกัน ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 14 วิทยาลัยแห่งนี้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และเป็นวิทยาลัยอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในมัฆริบ (แอฟริกาเหนือ) ในช่วงรุ่งเรือง และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นจุดสูงสุดของสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ซาเดียนส์

Madrasa Ben Youssef

🐫 พาไปเดิน “จัตุรัสกลางเมืองเฌมา เอล ฟนา” (Djemaa El Fna Square) จัตุรัสนี้เป็นศูนย์กลางของชาวเมืองมาร์ราเกช ที่มีขนาดใหญ่และถูกรายล้อมไปด้วยอาคารร้านค้าและตลาดนัด ในเวลากลางวันเต็มไปด้วยร้านขายน้ำผลไม้ สมุนไพร และของพื้นเมือง

เมื่อเข้าสู่ช่วงยามเย็นบรรยากาศจะแปรเปลี่ยนเป็น “ละครกลางแจ้ง” มีนักเล่านิทาน นักดนตรี นักแสดงพื้นบ้าน แพทย์แผนโบราณ และร้านอาหารกลางคืนเรียงรายรอบจตุรัส จัตุรัสแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่สาธารณะ แต่คือพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่ยังมีชีวิต UNESCO ขึ้นทะเบียนที่นี่เป็น “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ” เพราะเรื่องเล่าเหล่านี้ยังคงมีผู้มาฟังอย่างสม่ำเสมอ และยังคงดำเนินอยู่ทุกค่ำคืนในจัตุรัสแห่งนี้

Djemaa El Fna Square

🐫 ชม “สุเหร่าคูโตเบีย” (Kutobia Mosque) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยราชวงศ์อัลโมฮัด ที่นี่มีหอขานสูงถึง 70 เมตร ตกแต่งด้วยลายปูนปั้นฉลุและหินแกะลวดลายแบบอัลโมฮัดอย่างงดงาม ซึ่งได้กลายเป็น แม่แบบให้กับหอระฆังลา คิรัลดา (La Giralda) ในเซบียา สเปน และ หอขานของมัสยิดฮัสซันในราบัต รูปแบบของมันที่เรียบแต่สง่างาม ผสมกลิ่นอายเรขาคณิตของศิลปะมัวร์ จนหอขานแห่งนี้ได้กลายเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมหอขานไปทั่วทั้งอาณาบริเวณที่เคยอยู่ภายใต้อิทธิพลของอัลโมฮัด

Kutobia Mosque

🐫 แวะถ่ายรูปที่ บับ อักนาอู (Bab Agnaou) ซุ้มประตูนี้สร้างขึ้นและแล้วเสร็จในปี 1990 โดยราชวงศ์อัลโมฮัด เป็นหนึ่งในประตูที่สวยงามและคงสภาพดีที่สุดของมาร์ราเกช บับ อักนาอู ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นทางเข้าสู่เขตพระราชวังโดยเฉพาะ เป็นตัวอย่างของศิลปะแบบอัลโมฮัดที่เน้นความเรียบแต่ยังคงความสวยงาม และเป็นต้นแบบของประตูศิลปะมัวร์อื่นๆ

Bab Agnaou

🐫 เยี่ยมชม สุสานราชวงศ์ซาเดียนส์ (Saadian Tombs) สุสานแห่งนี้ถูกค้นพบในปี 1917 ที่นี่เป็นที่ฝังพระศพของสุลต่านราชวงศ์ซาเดียนส์ ไฮไลต์ของสุสานอยู่ที่ “ห้องสิบสองเสา” ซึ่งเป็นที่ฝังสุลต่านอาหมัด อัล-มันซูร์ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของราชวงศ์นี้ ห้องนี้ตกแต่งด้วยหินอ่อนจากอิตาลี ปูนปั้นลายอาหรับ และไม้แกะสลักอย่างประณีตและหรูหรา

🐫 เดินทางสู่ เมืองคาซาบลังกา (Casablanca) เมืองท่าใหญ่ที่สุดของโมร็อกโก และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสมัยใหม่ของโมร็อกโก เดิมเมืองนี้มีชื่อว่า อันฟา (Anfa) เป็นเมืองท่าของชาวเบอร์เบอร์ที่มีมาตั้งแต่ยุคโรมัน ในศตวรรษที่ 15–16 ชาวโปรตุเกสบุกเข้ายึดครองและเปลี่ยนชื่อเมืองว่า “คาซาบลังกา” แปลว่า “บ้านสีขาว” และชาวสเปนเรียกชื่อเมืองนี้ตามทำให้ชื่อนี้ติดปากเรื่อยมา

🐫 ร่วมดินเนอร์ที่ร้านอาหาร “ริคคาเฟ่” ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ระดับตำนานเรื่องคาซาบลังกา ในปี 1942 ร้านอาหารถูกตกแต่งในสไตล์ฮอลลีวูดยุคคลาสสิกผสมกับสไตล์โมร็อกโก มีเบบี้แกรนด์เปียโน ประตูโค้ง และโคมไฟแก้วแบบโมร็อกโก พร้อมเล่นเพลงประกอบจากภาพยนตร์ เช่น As Time Goes By ให้เพลิดเพลินระหว่างรับประทานอาหาร

ภาพยนตร์ Casablanca บอกเล่าเรื่องราวของ “ริค” เจ้าของไนต์คลับในเมืองคาซาบลังกาช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งได้กลับมาพบกับอดีตคนรักชื่อ “อิลซา” โดยไม่คาดฝัน ขณะเธอเดินทางมากับสามีซึ่งเป็นผู้นำขบวนการต่อต้านเยอรมัน ในเมืองที่เต็มไปด้วยเงามืดทางการเมืองและทางเลือกที่แสนเจ็บปวด ริคต้องเลือกระหว่างความรักหรืออุดมการณ์ หนังมีตอนจบที่ทั้งเจ็บปวดและซาบซึ้งอยู่คู่กาลเวลา

🐫 เยี่ยมชม มัสยิดกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 (King Hassan II Mosque) มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโมร็อกโก และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของทวีปแอฟริกาโดยสร้างเสร็จในปี 1993 ตัวมัสยิดตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก พื้นบางส่วนสร้าง “ลอยน้ำ” นอกจากนี้หอขานของมัสยิดยังเป็นหอขานที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองของโลกโดยมี 210 เมตร เป็นหนึ่งในไม่กี่มัสยิดในโมร็อกโกที่เปิดให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่มุสลิมเข้าชมได้อย่างเป็นทางการ

Previous slide
Next slide

 🫶 พร้อมสถานที่สุดพีกอีกมากมาย ราคาเริ่มต้น 129,900 บาท/ท่าน รวมตั๋วเครื่องบินและวีซ่าแล้วเรียบร้อย

…อย่าช้ารีบจองเลย!…

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

ทริปสุดพิเศษประจำปี 2025 แบบนี้ ออกเดินทางวันที่ 12-23 พฤศจิกายน  2025 แบบจัดเต็มถึง 12 วัน 9 คืน โดยทริปนี้ “คุณปั๊บ พงศ์ศรณ์ ภูมิวัฒน์” เจ้าของเพจ The Wild Chronicles 🌏 จะนำพาทุกท่านไปพบความรู้แปลกใหม่ ในสถานที่ที่ซ่อน “ความไม่ธรรมดา” เอาไว้มากมาย

วิทยากรด้านประวัติศาสตร์ต่างประเทศ

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

ทัวร์ของเราการันตีว่า "ประสบการณ์สุดพรีเมี่ยม" ตามสไตล์ The Wild Chronicles โดยเราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้คุณเท่านั้น ไม่ว่าจะสถานที่ โรงแรมที่พัก รวมถึงบริการสุด Exclusive ที่จะทำให้ท่านประทับใจแบบไม่รู้ลืม😍

รายชื่อโรงแรมที่ทางเราจัดไว้ให้สำหรับทุกท่านที่ร่วมเดินทางไปทัวร์กับ The Wild Chronicles

เราใส่ใจเลือกเมนูที่ดีที่สุดให้ทุกท่านเสมอ และไม่ว่าท่านจะมี condition ทางอาหารอย่างไร เราก็สามารถจัดให้ทานอย่างดีที่สุด และให้เข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นให้มากที่สุด รับรองได้ว่ามันจะเป็นอีกประสบการณ์อาหารที่นักผจญภัยอย่างท่านไม่ควรพลาดจริงๆ

…ย้ำทัวร์เราไม่จอยกรุ๊ป! พาทุกท่านชมประวัติศาสตร์แบบเต็มอิ่มไม่มีชะโงกดู อะไรควรดู อยู่ดูนานขึ้น อะไรอยู่นอกเส้นทางปกติแต่ควรสัมผัส เราจะพาทุกท่านไปสัมผัส ทัวร์นี้ผู้สูงอายุก็สามารถไปได้เพราะเราดูแลทุกท่านเป็นอย่างดี

…ทัวร์พิเศษแบบนี้ อย่าช้ารีบจองเลย!…

👉 หากท่านใดสนใจให้กด "จองทัวร์"  ได้เลย👈

⬇️หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 082-894-8444 หรือแอดไลน์ที่ปุ่มด้านล่างและพิมพ์ว่า “สนใจทัวร์โมร็อกโก” ครับ ⬇️

🎈 บริษัท The Wild Chronicles ใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่ 11/10382 🎈
คุณอารีย์
คุณอารีย์
Read More
เป็นทริปที่ดีที่สุดในชีวิตทริปหนึ่งเจอคนดีๆๆ ได้รู้จักกันขอบคุณทุกคนนะคะเจอกันทริปหน้าค่ะ
คุณสามารถ
คุณสามารถ
Read More
ขอบคุณอาจารย์เชนและอาจารย์ปั๊บที่ให้วิทยาทานและความสนุกสนานตลอดทริปครับ และดีใจที่ได้เดินทางกับเพื่อนร่วมทริปที่น่ารักทุกท่านครับ
คุณอุษณา
คุณอุษณา
Read More
เอาใจใส่ดูแลทุกอย่างไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยด้วยสุขภาพของตนเอง Tripนี้ ได้รู้จัก Morocco แบบไม่มีข้อสงสัย ด้วยกระจ่างในคำบรรยายประกอบทั้งของอาจารย์เองและของคุณ PUP ขอบพระคุณอาจารย์SHANE เป็นอย่างยิ่งค่ะ 🪷🙏🪷
Previous
Next

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

สนใจเรื่องราวและบทความประวัติศาสตร์เพิ่มเติม กดอ่านได้เลย

“ราชินีโจรสลัดแห่งโมร็อกโก” – ซัยยิดะห์ อัล ฮูร์รา

ซัยยิดะห์ อัล ฮูร์รา “ราชินีโจรสลัดแห่งโมร็อกโก” ซึ่งสามารถนำกองเรือโจรสลัดโมร็อกโกบุกปล้นกองเรือสเปนและโปรตุเกส จนเป็นที่หวาดผวาไปทั่วทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนี้ เธอยังเป็นเจ้าเมืองเตตวนและสวยมากเสียจนทำให้สุลต่านโมร็อกโกยังมาแต่งงานกับเธอ…

ศิลปะของมาเกร็บ วิวัฒนาการจากเปอร์เซียสู่แอฟริกาเหนือ

คำว่า “มาเกร็บ” (Maghreb) ที่มีความหมายว่า “ทิศตะวันตก” เป็นคำภาษาอาหรับที่ใช้เรียกพื้นที่ในทวีปแอฟริกาเหนือที่อยู่ทางตะวันตกของอียิปต์ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ชาวอาหรับมาพิชิตในช่วงการขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวางของอาณาจักรอิสลามในช่วงศตวรรษที่ 7

มัวร์ (Moors) คืออะไร? – สรุปเข้าใจง่าย

มัวร์ (Moors) คือใคร? นี่คงเป็นคำถามที่ใครหลายคนสงสัย...หากได้อ่านประวัติศาสตร์ยุโรปที่กล่าวถึงชาวมัวร์

Highlights

  • สำรวจเมืองคาซาบลังก้า เมืองที่คนทั่วโลกต่างรู้จัก
  • เยือน "เมืองสีชมพู" "นครสีฟ้า" และ "สวิตเซอร์แลนด์" แห่งโมร็อกโก
  • ขี่อูฐชมแสงอรุณแรกของเช้าวันใหม่เหนือทะเลทรายซาฮาร่า
  • ค้างคืนในเต็นท์แบบ exclusive ท่ามกลางเนินทรายเมอร์ซูก้า ที่วิวสวยจนเกือบลืมหายใจ!

รายละเอียดการจอง

ช่วงที่เดินทาง ผู้ใหญ่ เด็ก
12 พฤศจิกายน 2025 - 23 พฤศจิกายน 2025 129,900 บาท 129,900 บาท

calendar-color ข้อมูลการจอง

ราคาเบื้องต้น
0 บาท

ข้อมูลผู้จอง

Booking

เงื่อนไขการจอง

  1. กรุณาอ่านเงื่อนไขท้ายโปรแกรมอย่างละเอียด เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง
  2. พาสปอร์ตของท่านจะต้องมีวันหมดอายุอย่างน้อย 6 เดือน นับจากวันสุดท้ายของการเดินทาง
  3. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ราคานี้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยและ เป็นลักษณะ Join Tour เท่านั้น
  4. ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ กรุณาสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้ง มิเช่นนั้นทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
  5. การรูดบัตรไม่มีค่าธรรมเนียม ในกรณีกรุ๊ปไม่คอนเฟิร์มการเดินทาง สามารถยก Credit ไปใช้กับพีเรียดอื่น หรือโปรแกรมทัวร์อื่นๆได้ (หากต้องการให้คืนเงิน จะหักค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารเรียกเก็บ 3%) และกรณีลูกค้ายกเลิกการเดินทาง (กรณีสามารถยกเลิกได้) ทางเราขออนุญาต คิดค่าธรรมเนียมตามธนาคารเรียกเก็บ 3% หักจากยอดชำระที่ได้ทำการตัดบัตรชำระเข้ามา
  6. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
  7. บริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายใดๆ ในกรณีเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ ปฏิวัติและอื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯ
  8. หากไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ที่ระบุในโปรแกรมได้ อันเนื่องมาจากธรรมชาติ ความล่าช้า และความผิดพลาดจากทางสายการบิน จะไม่มีการคืนเงิน/ชดเชยใดๆทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่นๆมาให้ โดยขอสงวนสิทธิ์การจัดหานี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  9. กรณีเจ็บป่วยจนไม่สามารถเดินทางได้ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง ทางบริษัทฯจะพิจารณาเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไปแต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ เช่นค่าตั๋วเครื่องบินค่าห้อง ค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่สถานทูตฯ เรียกเก็บ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกิดขึ้นตามจริง ในกรณีที่ไม่สามารถเดินทางได้
  10. กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) ในกรณีที่ท่านได้ชำระค่าทัวร์หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ คืนค่าทัวร์หรือมัดจำให้ แต่ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าบริการยื่นวีซ่า, ค่าวีซ่า และค่าใช้จ่ายบางส่วนที่เกิดขึ้นจริงเป็นกรณีไป (อาทิ กรณีออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว หรือได้ชำระค่าบริการในส่วนของทางเมืองนอกเช่น โรงแรม ฯลฯ ไปแล้ว) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักเก็บค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นแล้วกับท่านเป็นกรณีไป
  11. กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
  12. กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แต่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ได้ เนื่องจากผู้เดินทางท่านอื่นในกลุ่มโดนปฏิเสธวีซ่า หรือไม่ว่าด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักเก็บค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นแล้วกับท่านเป็นกรณีไป
  13. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศ หรือ ห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ และบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
  14. หากท่านถอนตัวก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และจะไม่รับผิดชอบค่าบริการที่ท่านได้ชำระไว้แล้วไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

การจองนี้ยังไม่ใช่การยืนยันที่นั่ง
(เนื่องจากที่ว่างมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา)

จนกว่าท่านจะได้รับการยืนยันจากพนักงานขาย และได้รับ INVOICE แล้ว

  • 1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป - กลับ สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ชั้นประหยัด (Economy Class)
  • 2. ค่าน้ำหนักสัมภาระ สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ชั้นประหยัด (Economy Class) ตามมาตรฐานของสายการบิน ทั้งสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องและสัมภาระถือขึ้นเครื่อง
  • 3. ค่าบริการรถรับ - ส่งและนำเที่ยว พร้อมคนขับรถที่มีประสบการณ์
  • 4. ค่าที่พัก ตามที่ระบุในโปรแกรม โดยพักห้องละ 2 ท่าน
  • • กรณีต้องการ 3 เตียงให้แจ้งมาก่อน บางโรงแรมอาจ ไม่มี ห้องพักแบบ 3 ท่าน 3 เตียง
  • 5. ค่าเข้าชมสถานที่ ตามที่ระบุในโปรแกรม
  • 6. ค่าอาหารตามที่ระบุในโปรแกรม
  • 7. มัคคุเทศก์ท้องถิ่นผู้มีประสบการณ์
  • 8. วิทยากรและหัวหน้าทัวร์ชาวไทย
  • 9. ค่าธรรมเนียมวีซ่า (ประเทศโมร็อกโก)
  • 10. ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง วงเงินคุ้มครองท่านละ 1,000,000 บาท (ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์)
  • 1. ค่าอัพเกรดตั๋วเครื่องบินเป็นชั้นธุรกิจ (Business Class) สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ
  • 2. ค่าห้องพักเดี่ยว (กรณีพักคนเดียว)
  • 3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง / ค่าโทรศัพท์ / ค่าอินเทอร์เน็ต / ค่าซักรีด / ค่ามินิบาร์ในห้องพัก / ค่าอาหารพิเศษนอกเหนือจากที่กำหนดในโปรแกรม / เครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือจากรายการ / ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง / ค่าน้ำหนักกระเป๋าเกินจากที่สายการบินกำหนด / ค่าสำรองที่นั่งล่วงหน้า / ค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว / ค่ากระป๋องออกซิเจนพกพาส่วนตัว / ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
  • 4. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์, ไกด์ท้องถิ่น และคนขับรถ (จำนวนที่แนะนำตามมาตรฐาน คือ 130 USD/ท่าน)
  • 5. ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
  • 6. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา

โมร็อกโก

Specific Tour

International Tours

Tour's Location

Morocco

Wild Score คืออะไร?

Wild Score หมายถึงความแปลกของทัวร์ ทั้งในด้านตัวโปรแกรมและประสบการณ์ที่ผู้ไปจะได้รับ ทั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคุณค่าทางประวัติศาสตร์ หรือการไปยากง่าย

การชําระเงินและเงื่อนไขการจอง

• งวดแรก ชําระ 60,000 บาท ก่อนเพื่อทําการจอง (หากยืนยันการเดินทาง กรุณาชำระเงินมัดจำภายใน 7 วันหลังจากตัดสินใจจอง)
• งวดที่สอง ชําระงวดที่เหลือภายใน 30 วัน ก่อนออกเดินทาง 
• ต้องการเข้าพักเดี่ยวเพิ่ม 15,000 บาท
• ต้องการที่นั่ง Business Class เพิ่ม 97,000 บาท

ในกรณีที่ลูกค้าตัดสินใจ ยกเลิกการเดินทางก่อน 60 วัน หรือหลังจากที่มีการซื้อตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บมัดจําทั้งหมดหรือบางส่วน และหาก ยกเลิกภายใน 40 วันก่อนการเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บเต็มจำนวนทุกกรณี

** หากท่านใดเดินทางมาจากทางไกล และต้องสำรองตั๋วยานพาหนะหรือที่พักที่ใช้ในการเดินทางไป – กลับจุดต้น/ปลายทางของโปรแกรม กรุณายืนยันสถานะว่าทัวร์ออกได้กับทางบริษัทก่อน เพราะหากทัวร์ ออกไม่ได้ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งทาง บริษัทฯ ไม่อาจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ **

ช่องทางการชําระเงิน

บัญชีออมทรัพย์ บริษัทเดอะไวลด์โครนิเคิลส์ จํากัด ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 078–3–76866–6

ราคาเริ่มต้น 129,900 บาท

Information Contact

Email

tour@thewildchronicles.com

Phone

082-894-8444

You might also like