รู้หรือไม่ ‘กาแฟ’ เป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมานับพันปี มีอิทธิพลต่อคนในหลากหลายมิติไม่ว่าจะเป็น วิถีชีวิต รสนิยม ความเชื่อ และวัฒนธรรม ไม่ว่ายุคสมัยใด นับตั้งแต่มีการค้นพบ กาแฟจึงมีความเชื่อมโยงผูกพันอยู่คู่กับสังคมมาโดยตลอด

เรื่องราวของ ‘กาแฟ’ มีอะไรที่น่าสนใจในเชิงประวัติศาสตร์ ซึ่งย้อนหลังไปถึงปี ค.ศ. 850 และอาจก่อนหน้านั้น เนื่องจากมีตำนานมากมายเกี่ยวกับการกาแฟ ทั้งนี้ “กาแฟ” ปรากฏในตำนานของผู้คนบนทวีปแอฟริกามาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 9 กล่าวถึง ความช่างสังเกตของคนเลี้ยงแพะมีอาการคึกคักหลังจากกินผลเบอร์รี่กาแฟ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องดื่มอีกหนึ่งชนิดที่เกิดขึ้นบนโลก และสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

แหล่งดั้งเดิมที่ค้นพบกาแฟ 

กาแฟโดยแหล่งกำเนิดแล้วเป็นพืชพื้นเมืองของอาบีซีเนีย (Abyssinia) และอาราเบีย (Arabia) ถูกค้นพบในศตวรรษที่ 6 ราวปี ค.ศ. 575 ในประเทศอาระเบีย (Arabia) และในขณะเดียวกันบางแหล่งข้อมูลกล่าวว่ากาแฟเป็นพืชพื้นเมืองที่พบในเมืองคัพฟา (Kaffa) ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศเอธิโอเปีย (Ethiopia) กาแฟจึงได้ชื่อเรียกตามจังหวัดนี้ และยังได้เรียกแตกต่างกันออกไปอีกมาก แหล่งกำเนิดเดิมของกาแฟมาจากประเทศอาบีซีเนีย หรือแถบประเทศอาราเบียน หรือประเทศอาหรับ ตะวันออกกลาง สมัยนั้นไม่มีผู้ใดให้ความสนใจเท่าใดนัก

ชาวอาระเบียเรียกพืชนี้ว่า “คะวาฮ์” (Kawah) หรือ “คะเวฮ์” (Kaweh) ซึ่งแปลว่าพลัง (strength) หรือความกระปรี้กระเปร่า (vigor) ชาวตุรกีเรียกว่า “คะเวฮ์” (Kaveh) ต่อมาการเรียกชื่อกาแฟจึงเปลี่ยนแปลงไปตามแหล่งต่าง ๆ ของโลก เช่น คัฟฟี (Koffee) ในอังกฤษเรียกว่า “คอฟฟี” (coffee) อันเป็นชื่อที่รู้จักและใช้ในปัจจุบันนี้ เมื่อมาถึงประเทศไทยคนไทยเรียกว่า โกปี๊ ข้าวแฝ่ และกาแฟในที่สุด

ตำนานคาลดี (Kaldi หรือ Khalid)

มีตำนานเล่ากล่าวขานสืบต่อกันของเด็กเลี้ยงแพะ เรื่องราวของ ‘คาลดี’ เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 9 หรือในช่วง ค.ศ.850 เขาเป็นคนเลี้ยงแพะชาวเอธิโอเปีย เมื่อครั้งที่เขาต้อนแพะไปกินอาหารตามแหล่งธรรมชาติ เขาสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง โดยฝูงแพะเขาดูคึกคัก กระตือรือร้น หลังจากที่กินผลเบอร์รี่กาแฟไปแล้ว กล่าวกันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเพาะปลูกกาแฟในเวลาต่อมา

มีการกล่าวถึงกาแฟในวรรณกรรมของ ฟิลิปเป ซิลเวสเตร ดูโฟร์ (philippe sylvestre dufour) นักปรุงยาและกวีชาวฝรั่งเศส โดยเนื้อหามีการอ้างอิงมาจาก มูฮัมหมัด อิบัน ซาการียา อัล-ราซี (Muhammad ibn Zakariya al-Razi) แพทย์ชาวเปอร์เซียในศตวรรษที่ 10

หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรก ของการซื้อขายกาแฟ มีอายุย้อนไปถึงปลายศตวรรษที่ 15 และบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรว่าพ่อค้าชื่อ Sufi Imam Muhammad Ibn Said Al Dhabhani นำเข้ากาแฟจากเอธิโอเปียไปยังเยเมน แต่ก็มีข้อมูลบางแหล่งกล่าวว่าการค้ากาแฟเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกือบหนึ่งศตวรรษก่อนหน้านี้

ตลอดศตวรรษที่ 15 กาแฟเริ่มแพร่ไปทั่วตะวันออกกลางและแอฟริกา จนปี ค.ศ.1414 ได้ไปถึงเมกกะ เมดินา ไคโร ดามัสกัส แบกแดด คอนสแตนติโนเปิล และเมืองใหญ่อื่นๆ อีกหลายแห่ง และในช่วงต้นทศวรรษ 1500 ได้แพร่กระจายไปถึงสุลต่านมาเมลุค แห่งอียิปต์ และแอฟริกาเหนือจากท่าเรือมอคค่าของเยเมน

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1511 ไคร์ เบ็ก (Khair Beg) ผู้ว่าการเมกกะ ได้สั่งห้ามดื่มกาแฟ เนื่องจากกระตุ้นให้เกิดความคิดสุดโต่งของผู้คนในเมือง เขาเชื่อว่ากาแฟเป็นของมึนเมาที่เป็นอันตราย เทียบเท่ากับไวน์ ซึ่งอัลกุรอานห้ามไว้ เขาส่งกองกำลังไปยึดกาแฟจากผู้ขายและเผาสต็อกตามท้องถนน

ในปี ค.ศ.1524 ในตุรกีออตโตมาน สุลต่านสุไลมานที่ 1 ได้มีคำสั่งยกเลิกข้อห้ามที่ว่าด้วยไม่ให้ดื่มกาแฟ

ร้านกาแฟเปิดขึ้นในซีเรีย ในเมืองอเลปโป (Aleppo) และหลังจากนั้นได้มีการเปิดร้านกาแฟขึ้นต่อที่อิสตันบลู เมืองหลวงของจักรวรรดิออตโตมันในปี ค.ศ.1554

‘กาแฟ’ เป็นที่รู้จักครั้งแรกในยุโรปบนเกาะมอลตาใรศตวรรษที่ 16 โดยกาแฟถูกนำมากับทาสชาวมุสลิมตุรกี ที่ถูกอัศวินแห่งเซนต์จอห์นคุมขังในปี ค.ศ.1565 ซึ่งในช่วงนั้นกองทัพของออตโตมานปิดล้อมเพื่อจะยึดครองเกาะมอลตา

ต่อมาในปี ค.ศ. 1580 พรอสเปโร อัลปินี (Prospero Alpini) นักพฤกษศาสตร์และแพทย์ชาวเวนิสได้นำเข้ากาแฟจากอียิปต์เข้าสู่สาธารณรัฐเวนิส หลังจากนั้นไม่นาน ร้านกาแฟก็เริ่มเปิดทีละร้าน และกาแฟก็ได้แพร่หลายกลายเป็นเครื่องดื่มของปัญญาชน รวมถึงใช้กาแฟเป็นเครื่องมือในการพบปะทางสังคม

ในศตวรรษที่ 16 ยังเป็นช่วงเวลาที่กาแฟเป็นที่ชื่นชอบกับคนกลุ่มหนึ่งในยุโรป นักบวชจำนวนหนึ่งในคริสตจักรคาทอลิกเชื่อว่าเครื่องดื่มจะทำให้ประชาคมของพวกเขาเสื่อมเสียด้วยรสชาติที่แย่ พวกเขาตราหน้าว่ากาแฟเป็นซาตาน ทั้งยังกดดันให้ศาสนจักรสั่งห้าม

แต่เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเคลมองค์ที่ 8 ได้ลิ้มลองกาแฟ และได้พูดว่า “ทำไมเครื่องดื่มของซาตานถึงอร่อย จนน่าเสียดาย หากจะปล่อยให้คนนอกศาสนาใช้มันแต่เพียงฝ่ายเดียว” นอกจากนี้ยังได้พูดถึงว่ากาแฟยังดีกว่าพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ปีเตอร์ ฟาน เดน บร็อคเคอ (Pieter van den Broecke) พ่อค้าชาวดัตช์ได้ต้นกล้ากาแฟจากเมือง มอคค่า (Mocha) ประเทศเยเมน ในปี ค.ศ.1616 และนำกลับไปปลูกที่อัมสเตอร์ดัม

ร้านกาแฟแห่งแรกในอังกฤษ เปิดที่อ็อกซ์ฟอร์ด ลอนดอน ในปี ค.ศ.1652 โดยปาสกวา โรเซ่ (Pasqua Roseé) ชาวกรีก เขาเป็นคนรับใช้พ่อค้าชาวอังกฤษ ครั้นเมื่อตอนเจ้านายเขากลับมาที่ลอนดอน เขาจึงได้ติดตามมาด้วย และเปิดร้านกาแฟในที่สุด

ความนิยมการดื่มกาแฟเริ่มแพร่ไปทั่วทุกหนแห่งทั่วโลก จนในปี ค.ศ.1673 ในเยอรมัน ได้มีการเปิดร้านกาแฟแห่งแรกที่ท่าเรือทะเหนือ ในเบรเมน และได้แพร่ขยายไปถึงฮัมบูร์ก ในปี ค.ศ.1677

ในปี ค.ศ. 1669 สุไลมาน อากา (Soleiman Agha) เอกอัครราชทูตจากสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 4 ได้เดินทางถึงกรุงปารีสพร้อมกับผู้ติดตาม ซึ่งนำเมล็ดกาแฟจำนวนมากมาด้วย พวกเขาไม่เพียงชงกาแฟให้ชาวฝรั่งเศสและยุโรปกินเท่านั้น แต่พวกเขายังได้ให้เมล็ดกาแฟแก่ราาชสำนักอีกด้วย

บันทึกแรกของการปลูกกาแฟในอินเดีย เกิดขึ้นหลังจากการนำเมล็ดกาแฟจากเยเมนโดย บาบา บูดัน (Baba Budan) ไปมาขายที่รัฐกรณาฏกะ (Karnataka) จนทำให้ปัจจุบันรัฐนี้เป็นรัฐที่ปลูกกาแฟเยอะที่สุดในอินเดีย คิดเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตต่อปี ทำให้อินเดียเป็นชาติที่ผลิตกาแฟมากเป็นอันดับ 6 ของโลก (ข้อมูลปี ค.ศ.2019)

ร้านกาแฟแห่งแรกในออสเตรีย เปิดขึ้นในเวียนนาปี ค.ศ. 1683 หลังยุทธการเวียนนา โดยเจอร์ซี ฟรานซิสเซก คูลซีกี (Jerzy Franciszek Kulczycki) นายทหารชาวโปแลนด์ ได้ปล้นเสบียง เก็บเมล็ดกาแฟ หลังชนะพวกเติร์กได้ และนำเมล็ดกาแฟที่ได้มา มาเปิดร้านกาแฟแห่งแรกชื่อร้านว่า ‘ขวดสีน้ำเงิน (Blue Bottle)’

หลังงานเลี้ยงน้ำชาที่บอสตัน (Boston Tea Party) หรือการประท้วงทางการเมืองต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบของอังกฤษ เพื่อต่อต้านภาษีใบชาที่มาจากความไม่เป็นธรรม ในปี ค.ศ.1773 ชาวอเมริกันจำนวนมากเปลี่ยนมาดื่มกาแฟแทนชา เพราะการดื่มชากลายเป็นเรื่องไม่รักชาติ

อาราบิก้า เป็นกาแฟพันธุ์แรกที่นำเข้ามายังเวียดนามตั้งแต่ปี ค.ศ.1857 ครั้งแรกคือการทดลองปลูกในจังหวัดทางภาคเหนือ เช่น ห่านาม (Ha Nam), ฟูไล (Phu Ly) จากนั้นจึงขยายไปยังจังหวัดต่างๆ เช่น เหงะอาน (Nghe An) แล้วแพร่หลายไปยังจังหวัดในภาคกลาง ในที่สุดกาแฟก็เติบโตในที่ราบสูงตอนกลาง และเป็นที่ยอมรับว่าที่ราบสูงตอนกลางเป็นสถานที่ที่ดีในการปลูกกาแฟ

กาแฟได้แพร่หลายเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรก ในปี ค.ศ.1904 โดยชาวมุสลิมคนหนึ่งที่ชื่อ นายดีหมุน หรือนายหนิตีหมุน สุหลงกุ ได้ไปแสวงบุญที่เมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย และได้นำเมล็ดพันธุ์กาแฟมาเพาะปลูกที่ ตำบลบ้านโหนด อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กาแฟได้เดินทางไปอย่างแพร่หลาย เกือบทุกประเทศทั่วโลก นับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ทุกชาติต้องมี หรืออาจพูดได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่เป็นสากล ต่างเพียงวัฒนธรรมการดื่มของแต่ละประเทศที่มีความแตกต่างกัน

ในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า กาแฟถูกนำมาประยุกต์เป็นเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ด้วยการผสมผสานกับวัตถุดิบต่าง ๆ เพื่อสร้างมิติของรสชาติและความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเมนูนั้น ๆ ให้ดึงดูด โน้มน้าว ผู้บริโภคให้หลงใหลในรสชาติ และหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของกาแฟอย่างที่เป็นมาในอดีตจนถึงทุกวันนี้