ในช่วงเช้าของวันอังคารที่ 9 กันยายน ค.ศ. 2001 เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งชนเข้ากับอาคารทางทิศเหนือของตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ก่อนที่เครื่องบินลำที่สองจะชนเข้ากับอาคารทางทิศใต้ในอีก 20 นาทีต่อมา ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเล่นซ้ำไปซ้ำมา จนกลายเป็นภาพจำของโศกนาฎกรรมที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์สังเวยชีวิตกว่า 2,977 ราย
อย่างไรก็ตาม…. ผู้อ่านทุกท่านเคยสงสัยว่า “ทางการสหรัฐฯ เคยตระหนักถึงภัยคุกคามที่กำลังคืบคลานเข้ามาหรือไม่? “
The Wild Chronicle ขออาสานำท่านย้อนดู 9 เหตุการณ์ และความพยายามที่ประสบความล้มเหลวของหน่วยงานความมั่นคงสหรัฐในการหยุดยั้งการโจมตีแผ่นดินสหรัฐจากฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ซึ่งนำไปสู่สงครามในอัฟกานิสถานที่ยาวนานเกือบ 20 ปี
กันยายน ค.ศ. 1999
สหรัฐฯ พยายามติดตามความเคลื่อนไหวของ “อุซามะฮ์ บินลาดิน” (ต่อไปจะเรียกว่าบินลาเดน) หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย “อัลกออิดะห์” (ต่อไปจะเรียกว่าอัลเคดา) ผู้สนับสนุนนักรบมูจาฮีดีนระหว่างการต่อสู้กับโซเวียตในอัฟกานิสถาน และเคยเป็นแนวร่วมสำคัญของสหรัฐในช่วงเวลาหนึ่ง
โดยเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีสถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศเยเมนและโซมาเลีย มาตั้งแต่ปลายยุค 90s
รายงานภัยคุกคามจากการก่อการร้ายของรัฐบาลกลางระบุ ว่า “บินลาเดนเป็นผู้ต้องสงสัยในการให้เงินทุนสนับสนุนกล่มก่อการร้ายต่างๆ รวมถึงพยายามโจมตีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญในสหรัฐฯ อาทิ ตึกเพนตากอน, สำนักงานใหญ่ของซีไอเอ หรือแม้แต่ทำเนียบขาว …ด้วยอากาศยาน” แต่ข้อมูลดังกล่าวยังไม่มีหลักฐานเพียงพอ
14 ธันวาคม ค.ศ. 1999
ในเวลาต่อมา ทางการสหรัฐฯ สามารถจับกุมนาย อาเหม็ด เรสซาลาม ชาวอัลจีเรียวัย 34 ปี ซึ่งขับรถจากชายแดนแคนาดามาพักยังเมืองพอร์ตแอนเจลิสในวันที่ 14 ธันวาคม โดยทีมสืบสวนของเอฟบีไอสามารถขยายผลทราบว่า ผู้ต้องหาลักลอบนำวัตถุระเบิดแสวงเครื่องแบบทำมือน้ำหนักกว่า 130 ปอนด์ มาเพื่อก่อเหตุ ณ สนามบินนานาชาติลอสแอนเจลิส
นอกจากนี้หลักฐานจากลายนิ้วมือยังบ่งชี้ว่าอาเหม็ดมีความข้องเกี่ยวกับสมาชิกกลุ่มอัลเคดาอย่างน้อย 2 ราย ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จากร้านค้าในประเทศแคนาดา
มกราคม ค.ศ. 2000
จากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ซีไอเอสามารถตรวจพบความผิดปกติของผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งชื่อนาย คาลิด อัล มิลดาห์ ที่เดินทางไปพบกับเครือข่ายกลุ่มอัลเคดา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะเดินทางกลับสู่สหรัฐในเวลาต่อมา แม้เชื่อว่าเครือข่ายก่อการร้ายดังกล่าวพยายามวางแผนบางอย่างแต่ไม่มีใครทราบว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นที่ไหน… อีกทั้งการใช้อากาศยานพุ่งชนอาคารสำคัญยังดูเป็นแนวคิดที่ไกลเกินความเป็นจริง…
มกราคม – กันยายน ค.ศ 2000
นอกจากฝ่ายความมั่นคงที่กำลังทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อสืบสาวหาความจริง หน่วยงานการบินแห่งสหรัฐฯ หรือ FAA ก็ตอบสนองกับความไม่แน่นอนดังกล่าว อย่างกระตือรือร้นไม่แพ้กัน
พวกเขาส่งรายงาน “ความสุ่มเสี่ยงต่อการก่อเหตุด้วยอากาศยาน” ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์จี้เครื่องบิน (Hijack) เกือบทั้งหมด รวมทั้งรายงานที่น่าสงสัยตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการถูกบันทึกมากถึง 15 ครั้งใน 9 เดือนไปยังรัฐบาล พร้อมเสนอยกระดับกฏเกณฑ์ด้านนิรภัยการบิน (Aviation Safety) เพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกก่อวินาศกรรมโดยผู้ก่อการร้าย
…น่าเสียดายที่ข้อเสนอของพวกเขาไม่ได้รับการตอบสนองอย่างทันท่วงที…
12 ตุลาคม ค.ศ. 2000
และแล้ว… ปฏิบัติการก่อวินาศกรรมที่คาดไม่ถึงก็เริ่มขึ้น เมื่อสมาขิกกลุ่มอัลเคดานำเรือขนาดเล็กแล่นไปเทียบข้างเรือพิฆาตขีปนาวุธ (DDG) ยูเอสเอส โคล ซึ่งจอดทอดอยู่ ณ เมืองเอเดน ประเทศเยเมน ก่อนจะจุดระเบิดส่งผลให้เกิดรูขนาดใหญ่ข้างกราบเรือ พร้อมมีลูกเรือผู้โชคร้ายจำนวน 17 ราย ที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับการโจมตีครั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นความเสียหายครั้งร้ายแรงที่สุดของกองทัพเรือสหรัฐฯ จากน้ำมือของกลุ่มก่อการร้าย..”
10 กรกฎาคม ค.ศ. 2001
หลังจากที่พยายามติดตามมาระยะเวลาหนึ่ง… เจ้าหน้าที่หน่วยงานสืบสวนกลางหรือเอฟบีไอ ได้ทำการส่งข้อมูลผู้ต้องสงสัยทั้งหมด ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนการบินเอกชนหลายแห่งไปยังผู้อำนวยการ จอร์จ เทเน็ต ก่อนที่ข้อมูลชุดดังกล่าวจะถูกส่งต่อให้กับที่ปรึกษาด้านความมั่นคง คอนโดลีซซา ไรซ์ เพื่อนำเสนอต่อ ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช
6 สิงหาคม ค.ศ. 2001 : จดหมายเตือนถึงประธานาธิบดี
เพียงหนึ่งเดือนหลังทางเอฟบีไอกระจายข้อมูลนี้ต่อให้กับเบื้องบน… ประธานาธิบดี บุช ได้รับจดหมายเตือนจากฝ่ายความมั่นคง
…ใจความภายในระบุว่า “บินลาเดนกำลังวางแผนก่อการร้าย เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐฯ ต่อฐานที่มั่นของเขาในอัฟกานิสถานเมื่อสามปีที่แล้ว” แม้ว่าทางการจะสามารถจัดการกับความพยายามก่อเหตุได้หลายต่อหลายครั้ง ทว่ายังไม่มีหลักประกันใดๆว่า กลุ่มอัลเคดาจะหยุดยั้งความพยายามดังกล่าว…
วันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2001
“คำเตือนสุดท้าย…. เกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนสิงหาคม” เมื่อสายการบินแพนแอม (Pan Am) แจ้งข้อมูลกับหน่วยงานด้านความมั่นคงว่า มีคนพยายามเสนอเงินจำนวนมหาศาลเพื่อขอเรียนหลักสูตรบินเครื่องพาณิชย์ ทั้งที่ไม่ใช่นักบินอาชีพ ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของข้อสันนิษฐานเมื่อหลายปีก่อน…
วันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2001
ซีไอเอและเอฟบีไอต่างแลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมได้ โดยหวังว่าพวกเขาสามารถจับกุมสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายทั้งหมด ก่อนจะมีโอกาสลงมือ…
“แต่แล้วเวลากลับไม่อยู่ข้างพวกเขา เพียงแค่ 18 วันให้หลังเหตุการณ์ 9/11 ก็เกิดขึ้น…”
บทสรุปที่น่ากลัว
นี่คือลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่อาคารซึ่งเป็นสัญลักษณ์ศูนย์กลางทางการเงินของสหรัฐฯ จะค่อยๆ พังครืนและถล่มลงในเวลาราว 2 ชั่วโมง
หลังจากนั้น…. อาคารกลาโหมหรือเพนตากอนได้ถูกเครื่องบินลำที่ 3 พุ่งชนขณะที่เครื่องบินลำที่ 4 ตกลงสู่พื้นดินก่อนได้ดำเนินการใดๆ… เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนกว่า 2,977 คนเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 6,000 ราย
อย่างไรก็ตาม…. การโจมตีดังกล่าวไม่ใช่ความพยายามแรกที่เกิดขึ้น แต่เป็นผลลัพธ์ของความพยายามหลายครั้งที่สุกงอม ประกอบกับช่องว่างของการรักษาความปลอดภัยที่สุกงอม… จนนำไปสู่… “การโจมตีที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าโลกแห่งศตวรรษที่ 21” ไปตลอดกาล
0 Comment