((( แมวเลือกฮ่องเต้ในประวัติศาสตร์จีน – เมื่อ “รัชทายาท” ได้บัลลังก์มังกรเพราะเจ้าเหมียว )))
 
รู้หรือไม่? ครั้งหนึ่งเจ้าแมวเหมียวเคยได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจอันแสนยิ่งใหญ่อย่างการเลือกรัชทายาท เพื่อไปเป็น “ฮ่องเต้” ปกครองแผ่นดินจีน วันนี้ The Wild Chronicles จะพาไปดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นเหล่านั้นกันครับ
 
ย้อนกลับครั้งสมัยปลายราชวงศ์ซ่งแห่งแผ่นดินจีน ช่วงเวลานี้แผ่นดินจีนขาดเสถียรภาพทางการปกครอง โดยราชวงศ์ซ่งต้องเผชิญหน้ากับอาณาจักรเหลียวของชาวคีตันทางบริเวณตอนเหนือ
พวกเขาจึงหันไปจับมือกับพวก “ชนเผ่าหนี่เจิน” ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรเหลียว
 
…เมื่อได้พันธมิตรแบบนี้ การโจมตีแคว้นเหลียวก็ง่ายขึ้น ทำศึกชนะอย่างราบคาบ จากนั้นพวกหนี่เจินก็ได้ขึ้นปกครองดินแดนนี้ในฐานะ “อาณาจักรจิน” …
 
อย่างไรก็ดี ราชวงศ์ซ่งเหมือนหนีเสือปะจระเข้ อาณาจักรจินนั้นเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นย้อนหันกลับมารุกรานดินแดนของซ่ง ก่อนจะสามารถยึดเมืองหลวงอย่างเมืองไคเฟิงและจับตัวฮ่องเต้ซ่งฮุ่ยจง รวมถึงเหล่าเชื้อพระวงศ์กลับไปเป็นเชลยศึก …ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของราชวงศ์ซ่งไปด้วย…
 
อย่างไรก็ดีเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์ซ่งที่เหลือรอดคนหนึ่งนามว่า “จ้าวโกว” ได้ต่อสู้และทำการสถาปนา “ราชวงศ์ซ่งใต้” ขึ้นแถวพื้นที่ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียง เรียกว่าเมืองหลินอัน (ปัจจุบันคือเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง)
 
….อีกทั้งจ้าวโกวยังสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้นามว่า “ซ่งเกาจง” …
 
อนิจจา พระองค์กลับสูญเสียบุตรไปตั้งแต่อายุได้สองขวบ ส่งผลให้พระองค์ไร้รัชทายาทสืบต่อ รวมถึงต้องการสละราชบัลลังก์ไปพักผ่อนเต็มแก่ พระองค์จึงมีคำสั่งให้คัดเลือกเด็กที่มีสายเลือดราชวงศ์ซ่งทั่วราชอาณาจักร เพื่อนำมาคัดเลือกและแต่งตั้งเป็นรัชทายาทคนต่อไป
 
จนกระทั่งได้แคนดิเดตมา 2 คน ประกอบด้วย “จ้าวป๋อฉง” และ “จ้าวป๋อจิ่ว” โดยทั้งคู่ก็ได้มาศึกษาร่ำเรียนวิชาการต่างๆ ในวัง แต่ฮ่องเต้และมเหสีนั้นค่อนข้างถูกอกถูกใจป๋อจิ่วมากเป็นพิเศษ เนื่องจากดูมีโหงวเฮ้งที่ดี ร่างกายอ้วนท้วนดูแข็งแรง แตกต่างกับอีกคนที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงนัก
 
จนกระทั่งวันหนึ่งฮ่องเต้ซ่งเกาจงจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกรัชทายาท จึงได้คิด “แผนทดสอบ” โดยเรียกทั้งคู่มาเข้าพบ เพื่อฟังบรรยายเกี่ยวกับหลักการปกครองและเรียนรู้ที่จะขึ้นเป็นฮ่องเต้จากปากพระองค์
 
…ขณะที่กำลังยืนฟังกันอยู่ กลับมีแมวอ้วนตัวหนึ่งเดินผ่านว่าที่รัชทายาททั้งสอง ซึ่งเป็นแมวที่ฮ่องเต้ปล่อยมาทดสอบนั่นแหละ! …
 
ป๋อฉงที่อ่อนแอก็ปล่อยแมวเดินผ่านไปแบบไม่สนใจ ยังคงตั้งใจฟังคอร์สเรียน How to เป็นฮ่องเต้ต่อไป
 
…แต่ป๋อจิ่ว หนุ่มน้อยที่ถูกอกถูกใจฮ่องเต้ กลับเลือกที่จะเตะแมวเสียงดัง “เมี๊ยววววว” (บ้างก็ว่าอดใจไม่ไหว ลงไปเล่นกับแมวอ้วนตัวนั้น) ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาไม่ตั้งใจฟังหลักการปกครองบ้านเมืองนั่นเอง…
 
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ภายใต้สายตาของฮ่องเต้ตลอด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าฮ่องเต้โกรธหรือมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ผลลัพธ์คือป๋อฉงได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาท ส่วนคนที่เตะแมวก็ต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านไปตามระเบียบ!
 
จากนั้นฮ่องเต้ก็สละราชบัลลังก์ ส่งผลให้รัชทายาทขึ้นเป็นฮ่องเต้นามว่า “ซ่งเซี่ยวจง” แห่งราชวงศ์ซ่งใต้สืบราชบัลลังก์มังกรต่อไป …หรือนี่มันคืออาณัติสวรรค์จากน้องเหมียวกันนะ!?…
 
อย่างไรก็ตาม บางหลักฐานบอกว่าแบบทดสอบรัชทายาทของฮ่องเต้คือ การคัดเลือกสนมมา 20 คน แบ่งออกเป็นกลุ่มละ 10 คน จากนั้นส่งไปที่ตำหนักของทั้งคู่
 
…ปรากฎว่าป๋อจิ่วฟาดเรียบทุกคน ไม่สนใจคำห้ามปรามของผู้ดูแลสักนิด แต่ป๋อฉงกลับไม่สนใจสนมเหล่านั้นเลย…
 
ซึ่งฮ่องเต้คงคาดการณ์ว่าถ้าหากป๋อจิ่วขึ้นเป็นฮ่องเต้ อาจมัวเมาสุรานารีและไม่สนใจบริหารบ้านเมืองเท่าที่ควร พระองค์จึงตัดสินใจเลือกป๋อฉงเป็นรัชทายาท
 
อย่างไรก็ดี ถึงจะมีการสืบราชบัลลังก์มังกรต่อไป แต่ราชวงศ์ซ่งใต้ก็ไม่ได้มีความแข็งแกร่งทางการเมืองมากนัก อีกทั้งต้องรบพุ่งกับอาณาจักรจินแทบตลอดเวลา และในที่สุดราชวงศ์ซ่งใต้ก็ได้ล่มสลายไป หลังพ่ายแพ้ต่อ “จักรวรรดิมองโกล” ในสมัยกุบไลข่านนั่นเอง
 
อ้างอิงภาพ : Maamu