ครั้งหนึ่งกองทัพมาซิโดเนียของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์เคยบุกมาถึงทางตะวันออกเฉียงเหนือของชมพูทวีป ก่อนที่ต่อมาพื้นที่แถบนี้จะอยู่ในการควบคุมของพระเจ้าอโศกมหาราชซึ่งต่อมาพระองค์จะเข้ารีตนับถือศาสนาพุทธ …ดังนั้นจึงเกิดการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมแบบกรีกกับแบบพุทธ
ศิลปะลูกผสมกรีกกับพุทธดังกล่าวมีคำเรียกว่า “ศิลปะคันธาระ” ซึ่งใช้ในสถาปัตยกรรมและงานศิลปะต่างๆ โดยผลงานที่มีชื่อเสียงจะเป็นพระพุทธรูปแบบคันธาระ ที่มีการออกแบบด้วยสุนทรียภาพแบบกรีกโบราณ ดังนั้นพระพุทธรูปแบบดังกล่าวจะมีลักษณะร่วมคือจมูกโด่ง ปากเล็ก คิ้วเชื่อมกัน และห่มจีวรคล้ายๆ กับผ้าคลุมของโรมัน
นอกจากนี้เนื่องจากพระพุทธรูปยุคแรกสุดเกิดขึ้นหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 600 ปี จึงไม่มีผู้ใดทราบหน้าตาที่แท้จริงของพระพุทธองค์ ดังนั้นช่างจึงออกแบบให้พระพุทธรูปมีประภามณฑล (หรือรัศมีจากเศียร) คล้ายๆ กับเทวรูปอะพอลโลเป็นการสื่อแทน
การออกแบบพระพุทธรูปนี้นับเป็นการเปลี่ยนศาสนาพุทธให้เข้าสู่ยุคที่มีรูปเคารพ ซึ่งการเผยแผ่ศาสนาพุทธออกนอกชมพูทวีปล้วนได้รับอิทธิพลนี้ด้วยกันทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม พระพุทธรูปแบบที่เราเห็นกันส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบอมราวดีที่มีกำเนิดทางตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดียมากกว่า เพราะพื้นที่ใกล้กว่านั่นเอง
ศิลปะแบบคันธาระนี้นับเป็นมรดกตกทอดจากยุคโบราณที่เกิดจากการผสมผสานอารยธรรมจากฝั่งตะวันตกและตะวันออกที่แปลกตาอย่างยิ่ง
การตามรอยศิลปะแบบคันธาระนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของทัวร์ “Grand Pakistan: the Great Civilization” จัดโดย The Wild Chronicles นะครับ
อ้างอิง
0 Comment