แม้ม้าจะเป็นสัตว์ที่พบเห็นได้ทั่วไป และมีสายพันธุ์หลากหลายในทุกมุมโลก แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่า “ม้าป่าแท้” ซึ่งยังหลงเหลืออยู่ในธรรมชาตินั้น มีอยู่เพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้น คือ ม้าเพรเซวาลสกี้ (Przewalski’s horse) หรือที่ชาวมองโกเลียเรียกกันว่า ม้าทาคิ (Takhi Horse)
ปัจจุบัน ม้าสายพันธุ์นี้กระจายอยู่ตามธรรมชาติในประเทศมองโกเลีย จีน และรัสเซีย รวมทั้งสิ้นราว 2,500 ตัวทั่วโลก ถือเป็นหนึ่งในสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
ม้าเพรเซวาลสกี้มีลักษณะเฉพาะที่ต่างจากม้าบ้านทั่วไปอย่างชัดเจน พวกมันมีขนาดลำตัวเล็ก แข็งแรง คอสั้น แผงคอตั้งตรง ขนตามตัวมีสีออกน้ำตาลอ่อนคล้ายทราย หางยาวและหนาแน่นด้วยขน จนดูละม้ายคล้ายม้าลายขนาดย่อม นิสัยของพวกมันมักรวมกลุ่มอยู่กันเป็นฝูงเล็ก ๆ นำโดยตัวผู้ที่ทำหน้าที่ปกป้องฝูงจากนักล่าและอันตรายจากสัตว์ป่าอื่น ๆ
สิ่งที่ทำให้ม้าชนิดนี้โดดเด่นไม่เพียงแค่รูปลักษณ์ แต่รวมถึงพันธุกรรม เพราะพวกมันมีโครโมโซม 33 คู่ ในขณะที่ม้าบ้านมีเพียง 32 คู่ ซึ่งเป็นหลักฐานทางชีววิทยาที่บ่งชี้ว่าม้าเพรเซวาลสกี้ไม่ได้มีวิวัฒนาการเป็นสาขาย่อยของม้าบ้าน แต่มีเส้นทางวิวัฒนาการที่แยกออกมาโดยสิ้นเชิง พวกมันไม่เคยถูกเชื่อง ไม่เคยถูกใช้งานโดยมนุษย์ และยังคงความป่าแท้มาได้จนถึงวันนี้
ในอดีต ม้าชนิดนี้เคยมีถิ่นกระจายกว้างขวางตั้งแต่ยุโรปตะวันตกไปจนถึงเอเชียกลาง ทว่าเมื่อเผชิญกับการล่าจากมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ และการสูญเสียถิ่นอาศัย ประชากรของพวกมันจึงลดลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งในปี 1969 นักวิทยาศาสตร์ต้องประกาศให้ม้าเพรเซวาลสกี้เป็นสัตว์ที่ “สูญพันธุ์ในธรรมชาติ” เหลือเพียงบางตัวที่รอดอยู่ในสวนสัตว์ไม่กี่แห่งทั่วโลก
หากม้าสายพันธุ์นี้ยังคงมีชีวิตรอดอยู่ในธรรมชาติได้จนถึงวันนี้ นั่นเป็นเพราะการอนุรักษ์อย่างจริงจังในสถานที่หนึ่งที่ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติฮุสไต (Hustai National Park) ตั้งอยู่ใกล้กรุงอูลันบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50,000 เฮกตาร์
อุทยานแห่งนี้ดูแลโดยองค์กรไม่แสวงผลกำไร Hustai National Park Trust (HNPT) ซึ่งเริ่มโครงการฟื้นฟูม้าเพรเซวาลสกี้ในปี 1992 โดยนำม้าที่เกิดในกรงเลี้ยงกลับคืนสู่ธรรมชาติ ผ่านการปรับตัว การดูแล และการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดโดยผู้เชี่ยวชาญ
จากม้าเพียง 84 ตัวในช่วงเริ่มต้น ภายในปี 2002 จำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 150 ตัว และล่าสุดมีรายงานว่ามีม้าเพรเซวาลสกี้มากถึง 380 ตัว ที่อาศัยอยู่อย่างเสรีภายในอุทยานท่ามกลางทุ่งหญ้าและภูมิประเทศอันอุดมสมบูรณ์
หากใครมีโอกาสได้เดินทางไปยังมองโกเลีย อุทยานฮุสไตคือสถานที่ที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่คือ บ้านหลังสุดท้ายของม้าป่าแท้ที่เหลืออยู่ในโลก และเป็นภาพสะท้อนของความพยายามอันยาวนานในการฟื้นคืนธรรมชาติให้กลับมาหายใจอีกครั้ง
ป.ล. ชื่อของม้าสายพันธุ์นี้ตั้งตามนิโคไล เพรเซวาลสกี้ (Nikolay Przewalski) นักสำรวจชาวรัสเซีย-โปแลนด์ ผู้ค้นพบม้าชนิดนี้ในศตวรรษที่ 19 ที่บริเวณทุ่งหญ้ามองโกเลีย
#TWCVariety #TWCMongolia #TWC_Rama
0 Comment