“อุซเบกิสถาน” เป็นหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ The Wild Chronicles เปิดให้ท่านนักผจญภัยที่สนใจเดินทางไปท่องโลกกับเรา …ว่าแต่ท่านทราบข้อมูลอะไรเกี่ยวกับประเทศนี้บ้าง? ในโพสต์นี้จะมาแนะนำให้ทุกท่านเข้าใจประเทศอุซเบกิสถานกันนะครับ

รู้ไหมว่า? อุซเบกิสถานเป็น “ประเทศไม่มีทางออกทะเลสองชั้น” (doubly landlocked country) คือเป็นประเทศที่ถูกล้อมรอบทุกด้านด้วยประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลอีกรอบหนึ่ง แปลว่าการจะออกสู่ทะเลจะต้องผ่าน 2 ประเทศ ซึ่งจะยากกว่าประเทศไม่มีทางออกทะเลทั่วไป อุซเบกิสถานเป็นเพียง 1 ใน 2 ประเทศที่เป็นประเทศไม่มีทางออกทะเลสองชั้น อีกประเทศหนึ่งคือ “ลิกเตนสไตน์” ในทวีปยุโรป

รู้ไหมว่า? อุซเบกิสถานเป็นประเทศผู้ผลิต “ฝ้าย” รายใหญ่ของโลก ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายจากส่วนกลางตั้งแต่ยุคจักรวรรดิรัสเซียและสหภาพโซเวียต โดยครั้งหนึ่งเคยผลิตฝ้ายคิดเป็นถึง 70% ของทั้งสหภาพโซเวียตทีเดียว พืชชนิดนี้นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าจนได้ชื่อว่าเป็น “ทองคำสีขาว” แต่ทว่าการปลูกพืชชนิดนี้อย่างหนักได้ส่งผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างใหญ่หลวงตามข้อถัดไป

รู้ไหมว่า? อุซเบกิสถานเป็นที่ตั้งของอดีตทะเลสาบใหญ่อันดับ 3 ของโลก ขนาดถึงกว่า 68,000 ตร.กม. ที่ปัจจุบันแห้งเกือบหมดแล้ว ทะเลที่ว่าคือ “ทะเลอะรัล” ตรงชายแดนคาซัคสถาน-อุซเบกิสถาน สืบเนื่องจากการเพาะปลูกฝ้ายซึ่งเป็นพืชที่ต้องใช้น้ำมาก (ฝ้าย 1 กก. ใช้น้ำผลิต 10,000 ลิตร) ทางการโซเวียตได้ทำโครงการชลประทานผันน้ำออกจากแม่น้ำที่ไหลลงสู่ทะเลสาบอะรัล จนกลายเป็นแห้งขอดเกิดเป็นทะเลทรายใหม่ที่เรียกว่า “อะรัลคุม” แต่ปัจจุบันมีโครงการฟื้นฟูสภาพด้วยการปลูกป่าที่ดำเนินการไปเป็นพื้นที่แล้วกว่า 4.2 ล้านเอเคอร์

รู้ไหมว่า? แม้ผ้าไหมจะเป็นสินค้าขึ้นชื่อของจีนโบราณ แต่ปัจจุบันอุซเบกิสถานเป็นผู้ผลิตไหมรายใหญ่สุดของโลกหากคิดเป็นปริมาณต่อหัวประชากร (ส่วนปริมาณรวมคิดเป็นอันดับ 3 รองจากจีนและอินเดีย) อุตสาหกรรมผ้าไหมถือเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนในประเทศ และปัจจุบันนอกจากใช้ส่งออกแล้ว ยังใช้ผลิตผ้าไหมที่ขึ้นชื่อของตัวเองว่า “แอตลาส” ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของชุดประจำชาติด้วย

รู้ไหมว่า? กรุงทาชเคนต์ เมืองหลวงของอุซเบกิสถาน มีสถานีรถไฟใต้ดินแห่งแรกในเอเชียกลาง โดยเปิดใช้งานตั้งแต่ปี 1977 ปัจจุบันยังเป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่มีการตกแต่งสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีทั้งเพดานทำจากหินอ่อน งานแกะสลักโลหะและโคมระย้า และมีการขยายไปถึง 50 สถานีที่ก่อสร้างด้วยเทคโนโลยีป้องกันแผ่นดินไหว

รู้ไหมว่า? “ชา” เป็นเครื่องดื่มที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มประจำชาติของอุซเบกิสถาน โดยเฉพาะชาเขียวที่คนนิยมมากที่สุด ส่วนชาดำมีบริโภคบ้างแถวเมืองหลวง นอกจากนี้ยังมีการใส่สมุนไพรและเครื่องเทศลงไปด้วย นอกจากนี้ชาวอุซเบกิสถานยังมีประเพณีเกี่ยวกับชาของตัวเองอีกด้วย

รู้ไหมว่า? แม้อุซเบกิสถานเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม แต่เครื่องดื่มอย่าง “วอดก้า” ที่มีแอลกอฮอลก็ยังถือเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมาก สืบเนื่องจากการปราบปรามศาสนาในยุคโซเวียตนั่นเอง และปัจจุบันการดื่มแอลกอฮอลไม่ถือว่าผิดกฎหมายอุซเบกิสถาน

รู้ไหมว่า? อาหารอุซเบกิสถานเกิดจากการผสมผสานอาหารจากอิหร่าน อาหรับ รัสเซีย จีนและอินเดีย กลายเป็นอาหารลูกผสมที่มีความหลากหลาย อาหารประจำชาติของพวกเขาคือ “พลอฟ” ซึ่งเป็นข้าวอบเนื้อกับผักและเครื่องเคียง นอกจากนี้ยังมีขนมปังนำโชค (Lepeshka) ที่มีความเชื่อว่าห้ามวางคว่ำกับพื้นเพราะจะทำให้โชคร้ายด้วย

รู้ไหมว่า? “เมล่อน” เป็นผลไม้ขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของอุซเบกิสถาน และมีประวัติยาวนานเชื่อกันว่าเป็นแหล่งกำเนิดของเมล่อนเลยทีเดียว อุซเบกิสถานเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศเหมาะต่อการปลูกเมล่อนมาก จนมีบันทึกว่าใช้เป็นพืชถวายบรรณาการต่อผู้ปกครองและส่งต่อไปยังอารยธรรมจีนต่อไป ปัจจุบันอุซเบกิสถานมีเมล่อนถึง 160 สายพันธุ์ซึ่งสะท้อนถึงการพัฒนาต่อยอดเรื่อยมาแต่โบราณนั่นเอง

รู้ไหมว่า? บนท้องถนนของอุซเบกิสถานเต็มไปด้วยรถยนต์ยี่ห้อ “เชฟโรเลต” โดยมีตัวเลขระบุว่าอาจมีสูงถึง 94% ของรถยนต์ทั้งประเทศเลยทีเดียว สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเชฟโรเลตเป็นยี่ห้อที่มีการร่วมทุนระหว่างบริษัทเจเนอรัลมอเตอส์กับรัฐบาลอุซเบกิสถานและการกีดกันรถยนต์นำเข้ายี่ห้ออื่นนั่นเอง

✈️ …ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเกร็ดความรู้จากประเทศอุซเบกิสถานเท่านั้น และยังรอให้นักผจญภัยอย่างทุกท่านไปสัมผัสให้เห็นกับตาตนเองนะครับ 📣 สำหรับท่านที่สนใจเดินทางไปอุซเบกิสถานกับ The Wild Chronicles สามารถติดต่อเข้ามาที่ช่องทางต่างๆ ของเราได้เลย ❗️

#TWCTour #TWCCentralAsia