17 เมษายน 1975 หรือวันนี้เมื่อ 50 ปีก่อน กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชาได้ถูกกองกำลังเขมรแดงยึดครอง เป็นการปิดฉากระบอบเก่า และเปิดฉากนรกบนดินที่ประวัติศาสตร์โลกจะไม่มีวันลืม
ชัยชนะของเขมรแดงในวันนั้น ไม่ได้หมายถึงการปลดแอกหรือเสรีภาพ หากแต่คือการเริ่มต้นของยุคแห่ง “ปีศูนย์” (Year Zero) อุดมการณ์ที่เขมรแดงพยายามตั้งต้นประเทศขึ้นมาใหม่ในแบบที่ไม่มีชนชั้น ไม่มีเงินตรา และไม่มีศาสนา เขมรแดงใฝ่ฝันจะปฏิรูปกัมพูชาให้เป็นรัฐเกษตรกรรมบริสุทธิ์ โดยใช้กำลังและการกวาดล้างเป็นเครื่องมือหลัก
เมืองทั้งเมืองถูกเททิ้ง ประชาชนกว่า 2.5 ล้านคนในพนมเปญถูกบังคับให้ออกจากบ้าน สูญสิ้นทรัพย์สิน และถูกผลักดันไปใช้ชีวิตในชนบท โดยเขมรแดงแบ่งประชาชนเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ “ประชาชนเก่า” คือ ชาวไร่ชาวนาในชนบทเดิม และ “ประชาชนใหม่” คือ ชาวเมืองที่ถูกบีบให้ออกมาเป็นแรงงานเกษตรกร
“ประชาชนใหม่” ซึ่งส่วนใหญ่มิได้มีทักษะทางเกษตร ต้องเผชิญกับสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้ายที่สุด พวกเขาถูกส่งไปทำงานหนักในพื้นที่ป่าเขา โดยแทบไม่มีเครื่องมือหรืออาหารเพียงพอ หลายคนล้มตายเพราะความอดอยาก ความเจ็บป่วย หรือแม้แต่การถูกเขมรแดงสังหารอย่างโหดเหี้ยม
วิธีการสร้าง “รัฐในอุดมคติ” ของพล พตนั้นแลกมาด้วยชีวิตของผู้คนถึงราว 2 ล้านคน หรือราวหนึ่งในสี่ของประชากรทั้งประเทศในขณะนั้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีการศึกษา ปัญญาชน ข้าราชการ ศิลปิน ครู และแพทย์ ล้วนถูกกำจัดไปจนแทบหมดสิ้น เป็นความเสียหายที่ไม่อาจเยียวยาได้โดยง่าย
นี่คือ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนในชาติเดียวกัน” ที่โลกต้องจารึกไว้ในฐานะหนึ่งในโศกนาฏกรรมที่ไร้มนุษยธรรมที่สุดในศตวรรษที่ 20
หากจุดจบของเขมรแดงไม่ได้เกิดจากการลุกฮือของประชาชนที่ถูกกดขี่ แต่เกิดจากความเพ้อฝันของพล พต ที่ต้องการรื้อฟื้นอำนาจจักรวรรดิเขมรในอดีต จึงนำทัพบุกเวียดนามและไทย หวังทวงคืนดินแดนประวัติศาสตร์ การรุกรานนี้จุดชนวนให้เวียดนามตอบโต้ด้วยการส่งทัพเข้าโค่นล้มระบอบเขมรแดงเมื่อปี 1979
หลังถูกเวียดนามโค่นล้มในปี 1979 ผู้นำเขมรแดงได้หลบหนีเข้าป่าในเขตชายแดนไทยเพื่อก่อตั้งกองโจรต่อสู้อยู่อีกเกือบ 20 ปี แต่ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 เขมรแดงเริ่มเสื่อมอำนาจอย่างรวดเร็วจากความแตกแยกภายใน โดยผู้นำสำคัญหลายคนแยกตัวออกมาและยอมจำนนต่อรัฐบาล ก่อนที่ต่อมาจะถูกพิจารณาคดีในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กระนั้นมันก็ยังช้าเกินไปสำหรับผู้สูญเสีย
ส่วนพล พตนั้น ผู้นำเขมรแดงได้เสียชีวิตลงเมื่อปี 1998 โดยที่ไม่ได้รับผิดต่ออาชญากรรมที่เขาก่อไว้ต่อเพื่อนร่วมชาติหลายล้านคน
ความเจ็บปวดจากความสุดโต่งของอุดมการณ์ และการลิดรอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ยังคงทิ้งรอยแผลลึกไว้ในหัวใจของกัมพูชา และเป็นบทเรียนสำคัญที่โลกไม่ควรลืมเป็นอย่างยิ่ง
#TWCHistory #TWCCambodia #TWC_Rama
0 Comment