“บัลแกเรีย” ประเทศยุโรปตะวันออก ซึ่งปัจจุบันเป็นสมาชิก EU และ NATO นั้น ในยุคสงครามเย็น พวกเขาเคยเป็นประเทศพันธมิตรของสหภาพโซเวียตที่ใกล้ชิดมาก่อน ถึงขั้นที่ผู้นำของบัลแกเรียเคยยื่นข้อเสนอว่า อยากเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตกันเลยทีเดียว

เดิมที บัลแกเรียปกครองโดยระบอบกษัตริย์ แต่เมื่อประเทศได้ไปเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพแดงก็เข้ายึดครองดินแดนบัลแกเรียในปี 1944 แล้วหนุนให้พรรคคอมมิวนิสต์บัลแกเรียทำการรัฐประหาร จนบัลแกเรียตกอยู่ใต้คอมมิวนิสต์โซเวียต

บัลแกเรียถือเป็นประเทศพันธมิตรของโซเวียตอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกคอมิคอน, องค์การสนธิสัญญาวอร์ซอ, หรือการพัฒนาสังคมอุตสาหกรรมตามรอยโซเวียต

หากในช่วงยุค 1960’s ตอดอร์ ซีฟกอฟ ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์บัลแกเรียได้เสนอให้โซเวียตรับบัลแกเรียไปเป็นส่วนหนึ่งของประเทศในฐานะสาธารณรัฐที่ 16 เพราะต้องการให้โซเวียตแบ่งปันทรัพยากรต่างๆ ให้บัลแกเรียได้มากขึ้น พร้อมช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับบัลแกเรียจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้จาก NATO และชาติตะวันตก

แม้ซีฟกอฟจะเสนอเรื่องนี้ให้ทางโซเวียตหลายครั้ง แต่ผู้นำโซเวียตอย่างนิกิตา ครูชชอฟ และเลโอนิด เบรฟเนฟ กลับปฏิเสธข้อเสนอนี้ เพราะโซเวียตกังวลถึงผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกับบัลแกเรียที่มีประวัติศาสตร์ชาติที่ยาวนานและโดดเด่นเกินไป อีกทั้ง หากรับบัลแกเรียเข้ามา ชาติคอมมิวนิสต์อื่นๆ อาจทำตามบัลแกเรียจนเสถียรภาพภายในของโซเวียตย่ำแย่ลง

ขณะเดียวกัน ทางยอซีป บรอซ ตีโต ประธานาธิบดียูโกสลาเวียก็เคยยื่นข้อเสนอให้บัลแกเรียมาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ แต่ทางบัลแกเรียก็ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย และแอบอิงกับโซเวียตต่อไปจนสิ้นสุดสงครามเย็น

บัลแกเรียปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์พรรคเดียวถึงปี 1989 จนเมื่อโซเวียตเสื่อมลง ประชาชนชาวบัลแกเรียก็ได้ออกกันมาชุมนุมขับไล่ตอดอร์ ซีฟกอฟ และเปลี่ยนมาเป็นระบอบประชาธิปไตยได้ในปี 1990

หลังจากนั้น บัลแกเรียยุคใหม่ก็ดำเนินนโยบายทุนนิยมประชาธิปไตย โปรตะวันตก จนได้เข้าร่วมกับ NATO เมื่อปี 2004 และสหภาพยุโรป (EU) เมื่อปี 2007 โดยมีความสัมพันธ์กับทางรัสเซียที่ย่ำแย่ลงโดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน

#TWCHistory #TWCBulgaria #TWC_Rama