“สาธารณรัฐเช็ก” ขึ้นชื่อเรื่องความสัมพันธ์ที่หยั่งรากลึกกับเบียร์มายาวนาน ประเทศเล็กๆแห่งนี้มีประเพณีการผลิตเบียร์ที่ไม่ธรรมดา ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบเบียร์อย่างแท้จริง ในบทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมเบียร์เช็ก โดยรวบรวมมาให้ท่าน 7 ข้อด้วยกันครับ
1. สาธารณรัฐเช็กครองตำแหน่ง “ประเทศที่ประชากรดื่มเบียร์ต่อหัวสูงที่สุดในโลก” แซงหน้าเยอรมนี ไอร์แลนด์ และเบลเยียม โดยผู้คนในประเทศดื่มเบียร์โดยเฉลี่ยประมาณ 161 ลิตรต่อปี อย่างไรก็ตาม สมาคมผู้ผลิตเบียร์แห่งสาธารณรัฐเช็ก ได้กังวลเกี่ยวกับการผลิตเบียร์ที่ลดลง 8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถึงจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 แนวโน้มที่น่าตกใจนี้มีความเป็นไปได้ว่าเช็กอาจสละตำแหน่งผู้นำด้านการดื่มเบียร์เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในท้ายที่สุด
2. สาธารณรัฐเช็กมีประเพณีการหมักเบียร์ที่สืบทอดมาตั้งแต่ ค.ศ. 993 ในช่วงยุคแรกๆ โรงกลั่นส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยอารามต่างๆ อาจเป็นไปได้ว่า เบียร์ถูกกลั่นในภูมิภาคนี้ก่อนปี ค.ศ. 993 แต่บันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรยืนยันว่า พระสงฆ์เบเนดิกติน กำลังหมักเบียร์อยู่ในอารามเบรฟนอฟ (Břevnov Monastery) นับเป็นการกล่าวถึงกระบวนการผลิตเบียร์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเช็ก
3. ในกรุงปราก เบียร์ถูกกว่าน้ำดื่มบรรจุขวด! โดยราคาเบียร์ต่ำสุดจะอยู่ที่ 14 โครูนาเช็ก หรือประมาณ 22 บาท แต่น้ำดื่มขนาด 0.33 ลิตร โดยทั่วไปมีราคาอยู่ที่ 35 โครูนาเช็ก หรือประมาณ 55 บาท
4. สาธารณรัฐเช็กมีบัดไวเซอร์ (Budweiser) เป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1785 โดยก่อตั้งขึ้นในเมืองเชสเก บูเดอโจวิซ (České Budějovice) ต่อมา บริษัทแอนไฮเซอร์-บุช (Anheuser-Busch) ของอเมริกาได้นำชื่อนี้มาใช้ และหลังจากนั้นโรงเบียร์อีกแห่ง ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ บัดไวเซอร์ บัดวาร์ (Budweiser Budvar) ก็ได้เริ่มผลิตเบียร์ชื่อบัดไวเซอร์เช่นกัน เมื่อโรงเบียร์ในเช็กส่งออกบัดไวเซอร์ไปยังอเมริกา ก็เกิดความขัดแย้งเรื่องเครื่องหมายการค้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ จนในที่สุด ศาลได้ตัดสินให้แอนไฮเซอร์-บุชได้สิทธิ์ในการใช้ชื่อบัดไวเซอร์ทั้งในอเมริกาเหนือและยุโรป ขณะเดียวกันบัดไวเซอร์ บัดวาร์ ได้วางขายในตลาดอเมริกาเหนือภายใต้ชื่อเช็กวาร์ (Czechvar)
5. หากคุณเดินทางไปที่เมืองสตริโบร (Stříbro) และเมืองเปิลเซน (Plzen) ที่นี่จะมี “โรงแรม” ที่แปลงมาจาก “โรงเบียร์” มากมาย อาทิเช่น โรงเบียร์ยู ริบิเชค (U Rybiček) ที่ตกแต่งสไตล์ศตวรรษที่ 17 และโรงเบียร์เบอร์โกมาสเตอร์ (Purkmistr Brewery) สไตล์แบบร่วมสมัยที่มีลานโบว์ลิ่งในตัวอีกด้วย
6. หากคุณไปเที่ยวบาร์ที่เช็ก เมื่อคุณก้าวเข้าไปนั่งที่โต๊ะ พนักงานจะนำเบียร์มาเสิร์ฟให้คุณโดยอัตโนมัติ โดยเบียร์ในแต่ละบาร์นั้นจะมียี่ห้อที่ต่างกัน และบาร์หนึ่งแห่งมักจะเสิร์ฟเบียร์แค่ยี่ห้อเดียวเท่านั้น โดยระดับแอลกอออล์ก็จะไม่เหมือนกัน ซึ่งมีทั้ง 10 ดีกรี (อยู่ในระดับต่ำ), 12 ดีกรี (อยู่ในระดับปานกลาง) และเบียร์ดำ ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูงขึ้น
0 Comment