นี่คือเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่สอบตกขุนนาง และอ้างตัวว่าเป็น “บุตรชายของพระเยซู” ซึ่งนำไปสู่การเกิดเหตุกบฏครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน วันนี้ The Wild Chronicles จะพาไปดูเรื่องราวของ “หงซิ่วเฉวียน” กันครับ
“หงซิ่วเฉวียน” เป็นชาวจีนแคะ (ฮักกา) ที่อาศัยอยู่ในมณฑลกว่างซี และประกอบอาชีพครู โดยเขามีความฝันอยากจะเป็น “ขุนนาง” เขาจึงพยายามอ่านหนังสือต่างๆ เพื่อให้ตัวเองทำตามความฝันได้สำเร็จ
…อนิจจา แม้ตัวเขาจะสอบขุนางไปถึง 3 ครั้ง แต่ก็ไม่ติดเลยสักครั้ง… ความผิดหวังในใจที่เกิดขึ้น มันทำให้เขาท้อแท้กับสิ่งที่ตนทำมาอย่างมาก ถึงขั้นเสียใจจนล้มป่วย กลายเป็นว่า “เจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจ”
แต่หลังเขาหายป่วย เขาดันได้มีโอกาสพบเจอกับมิชชันนารีของศาสนาคริสต์ ซึ่งเมื่อเขาฟังหลักคำสอน ก็รู้สึกศรัทธาอย่างมาก และตัดสินใจเข้ารีตทันที
ความเลื่อมใสในศาสนาคริสต์ของหงซิ่วเฉวียน มันพุ่งทะยานไปถึงขั้นที่เก็บไปฝันว่า “เขาคือบุตรของพระเจ้า และเป็นน้องชายของพระเยซู” และเมื่อตื่นจากความฝัน หงซิ่วเฉวียนก็มีความเชื่อแบบสนิทใจว่า ตนเองคือผู้ที่ได้รับหน้าที่จากพระเจ้าให้มาปลดปล่อยจีนออกจากเงื้อมมือของทรราชย์!
…นั่นคือ “ราชวงศ์ชิงของชาวแมนจู” นั่นเอง
จากนั้นหงซิ่วเฉวียนก็เริ่มเผยแพร่ความเชื่อของเขาทันที ซึ่งก็มีคนเชื่อเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเพราะเขาเป็นครูอยู่แล้ว ทำให้เป็นที่ยอมรับในสังคมจีนตอนนั้น เพราะถือว่ามีการศึกษาดี
นอกจากนี้เขายังมีนโยบายสุดคูลหลายอย่าง เช่น ล้มล้างราชวงศ์ชิงและขับไล่พวกแมนจู เพื่อคืนความยิ่งใหญ่ให้กับชาวจีน รวมไปถึงยังแสดงการต่อต้านลัทธิขงจื๊อ, ต่อต้านการนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และต่อต้านระบบศักดินา
อีกทั้งอนุญาตให้ผู้หญิงเข้ารับราชการได้ พร้อมยกเลิกประเพณีโบราณ เช่น การสอบรับราชการ การคลุมถุงชน การรัดเท้า เป็นต้น
หงซิ่วเฉวียนยังจะให้มีการปฏิรูปการเกษตร และจัดสรรแบ่งที่ดินกันอย่างเท่าเทียมตามขนาดครอบครัว นอกจากนี้ยังสนับสนุนความเป็นรัฐสวัสดิการให้แก่ชาวจีน
ด้วยเหตุนี้ ส่งผลให้ชาวจีนแคะและชาวจีนฮั่นเข้าร่วมกับหงซิ่วเฉวียนเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนที่เข้าร่วมก็ไม่ได้เป็นกุ๊กไก่ แต่มีคนมีความสามารถอยู่เพียบ รวมถึงซื้ออาวุธสมัยใหม่มาจากชาติตะวันตก เพื่อสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งได้มากกว่า 2 ล้านคน!
จนเกิดเป็น “กบฏไท่ผิงเทียนกั๋ว” เหตุกบฏครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีนที่สามารถยึดเมืองต่างๆ ทางใต้ของจีนได้เป็นจำนวนมาก จนสามารถสร้าง “อาณาจักรไท่ผิงเทียนกั๋ว” ของตนเองขึ้นมาได้
#TWCHistory #TWCome
0 Comment