ปัจจุบัน ประเทศบัลแกเรียมีประชากรนับถือศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นออร์โธดอกซ์ประมาณ 6.7 ล้านคน คิดเป็น 85 % ของประชากรทั้งหมด ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับประเทศที่เคยปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์ที่แอนตี้ศาสนา
หากท่านรู้หรือไม่? ว่าเดิมทีชาวบัลแกเรียไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์หรอกนะ แต่บรรพบุรุษของพวกเขาอย่างชาวบัลการ์นั้นนับถือศาสนาชนเผ่า และหันมานับถือศาสนาคริสต์เมื่อปี 865 จนกลายเป็นประเทศสลาฟชาติแรกที่หันมานับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งส่งผลใหญ่หลวงต่อประวัติศาสตร์โลก ทั้งด้านภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม
เรื่องราวเริ่มจากในช่วงปลายจักรวรรดิโรมันตะวันตก บัลแกเรียถูกรุกรานโดยจอมพลคนเถื่อนนาม “อัตติลาเดอะฮัน” (Attila the Hun) และยึดครอง แม้อัตติลาจะล้มตาย บัลแกเรียก็ยังคงถูกปกถูกปกครองโดยเผ่าคนเถื่อนที่กระจัดกระจายเป็นกลุ่มก๊ก และเรียกผู้นำของตนเองว่า “ข่าน” (Khan) ตามชื่อเรียกผู้นำสูงสุดชนเผ่าต่างๆ ในเอเชียกลาง
ต่อมา ปี 632 ข่าน คูบรัต (Khan Kubrat) ได้รวมชนเผ่าขี่ม้าที่ใหญ่ต่างๆ เป็นประเทศที่ปัจจุบันนักประวัติศาสตร์เรียกว่า Great Bulgaria และเรียกเป็นเผ่าว่า “พวกบัลการ์”
หลังจากนั้นในปี 681 ข่าน อัสปารุจ (Khan Asparuch) ลูกชายของ ข่าน คูบรัต (Khan Kubrat) เอาชนะกองทัพไบแซนไทน์ หรืออาณาจักรโรมันตะวันออก แล้วลงนามสันติภาพ เพื่อก่อตั้งอาณาจักรบัลแกเรียแห่งแรก โดยมีเมืองหลวงคือ พลิสกา (Pliska)
กระนั้น พวกไบแซนไทน์ยังต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่ใหญ่กว่า เพราะในปี 717 กองทัพมุสลิมชาวอาหรับนำทหารมาปิดล้อมกรุงคอนสแตนติโนเปิล เมืองหลวงของไบแซนไทน์ ทั้งทางบกและทางน้ำ จักรวรรดิไบแซนไทน์ที่ทำสนธิสัญญาสันติภาพกับข่านแห่งบัลแกเรีย จึงขอร้องให้ ข่าน เทอร์เวล (Khan Tervel) ลูกชายข่าน อัสปารุจ (Khan Asparuch) แห่งบัลแกเรียเข้าปราบกองทัพชาวอาหรับ
ปรากฏว่าข่านเทอร์เวลได้รับชัยชนะอย่างงดงาม จนมีผู้กล่าวว่าหากไม่มีข่าน เทอร์เวล ยุโรปในตอนนี้อาจจะเป็นมุสลิมกันไปซะส่วนใหญ่แล้ว ตอนนั้นจักรพรรดิไบแซนไทน์ซาบซึ้งมาก ถึงกับเรียกข่านเทอร์เวลว่า “ซีซาร์” ซึ่งเป็นคำเรียกจักรพรรดิของพวกโรมัน
แต่ตอนนั้น ข่านแห่งบัลแกเรียยังไม่ยอมเรียกตัวเองว่าซีซาร์ เพราะถือว่าข้าก็เก่งเจ๋งอยู่แล้ว แถมข้ายังไม่อินกับวัฒนธรรมตะวันตก พวกข้ายังชอบยศข่าน ชื่อยศซีซาร์ไม่จำเป็นหรอก…
จนกระทั่งในปี 811 จักรพรรดิไนซ์โฟรัส ที่ 1 (Nicephorus I) แห่งไบแซนไทน์ รู้สึกว่าพวกบัลการ์เข้มแข็งเกินไปจนจะเป็นภัย จึงได้รวบรวมทหารจากทุกหนแห่งเข้าปล้น เมืองพลิสกา เมืองหลวงของบัลแกเรีย (ชะอ้าว…ตระบัดสัตย์)
แต่ด้วยความแข็งแกร่งของ ข่าน ครัม (Khan Krum) กษัตริย์บัลการ์ยุคนั้น จึงทำให้บัลแกเรียสามารถปราบกองทัพของชาวไบแซนไทน์ได้สำเร็จ รวมถึงสังหารจักรพรรดิไนซ์โฟรัส แล้วตัดหัวนำกระโหลกมาทำถ้วยเครื่องดื่ม ดื่มด้วยความสะใจ ฮ่าฮ่าฮ่า
ต่อมาในปี 862 กษัตริย์ราสติสลาฟแห่งโมราเวีย ได้ทูลต่อกษัตริย์ของไบแซนไทน์ให้ส่งนักบวชไปประกาศศาสนาคริสต์ในแดนตน จึงมีการส่งนักบวชสองพี่น้องชื่อซีริลและเมโธดิอุส (Cyril and Methodius) ให้ทำหน้าที่นี้
พวกโมราเวียเป็นชาวสลาฟ ฝรั่งเผ่าหนึ่งที่อยู่ในยุโรปตะวันออกมานานแล้ว การเผยแผ่ศาสนาครั้งนี้ทำให้ศาสนาคริสต์มั่นคงในแดนสลาฟ ซีริลและเมโธดิอุสได้คิดค้นอักษรกลาโกลิติก (Glagolitic alphabet) เพื่อให้สามารถถ่ายทอดศาสนาคริสต์เป็นภาษาสลาฟได้ง่าย (อักษรละตินใช้ออกเสียงภาษาสลาฟไม่ค่อยได้) อักษรนี้ได้พัฒนามาเป็นอักษรซีริลลิกซึ่งมีใช้กันอยู่มากถึง 12 ประเทศ หลักๆ คือรัสเซีย กับยุโรปตะวันออก ในลักษณะนี้ซีริลและเมโธดิอุสจึงได้ฉายาว่าเป็นผู้นำแสงสว่างสู่ชาวสลาฟ และได้เป็นนักบุญ
ถามว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับบัลแกเรียยังไง? …เรื่องมันมีอยู่
การเผยแผ่ศาสนาของซีริลและเมโธดิอุส ทำให้กษัตริย์บอริสที่ 1 แห่งบัลแกเรีย (ปกครอง 852–889) เกิดศรัทธาศาสนาคริสต์ จากการเผยแผ่ของลูกศิษย์ของซีริลและเมโธดิอุสที่มาแถวนั้น จึงเปลี่ยนศาสนา (ก่อนนี้นับถือศาสนาชนเผ่า) และกำหนดให้คริสต์นิกายอีสเทิร์นออร์โธดอกซ์เป็นศาสนาหลักของบัลแกเรีย หลังจากนั้น ศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นออร์โธดอกซ์ก็ถูกเผยแผ่ในยุโรปตะวันออกจนกลายเป็นนิกายหลักจนถึงปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงนี้ใหญ่หลวงนัก เพราะมันไม่ได้ส่งผลเพียงแต่ด้านศาสนา แต่ด้านวัฒนธรรม ชาวบัลการ์ยังไปผสมปนเปกับชาวสลาฟซึ่งอยู่มาก่อนตน ทำให้ในที่สุดแล้วพวกเขาพูดภาษาตระกูลสลาฟ ใช้อักษรซีริลลิก ปนๆ เป็นคนสลาฟไปด้วย จนกลายเป็นฝรั่งเต็มตัว!
ต่อมา พระเจ้าไซเมียนที่ 1 (ปกครอง 893-927) ลูกของบอริสชื่อ มหาราชของชาวบัลแกเรียก็รู้สึกว่าตอนนี้การเรียกตัวเองเป็น “ข่าน” นั้นมันดูไม่เจ๋งไม่ทัดเทียมฝรั่งอื่นๆ อีกแล้ว จึงอาศัยการที่ข่านเทอร์เวลบรรพชนตนเคยได้รับการเรียกว่า “ซีซาร์” ตั้งตัวเองเป็น “ซีซาร์” เสียเลย
และเนื่องจากพวกบัลการ์เรียกคำว่าซีซาร์เพี้ยนเป็น “ซาร์” ไซเมียนที่ 1 จึงกลายเป็น “ซาร์ไซเมียนที่ 1” ต่อมาเซอร์เบีย และรัสเซียต่างรับเอาคำว่าซาร์ไปใช้เรียกกษัตริย์ของตน จึงเกิดพระเจ้าซาร์ขึ้นในสามประเทศนี้ โดยเริ่มมาจากการเรียก “ซีซาร์” เพี้ยนของพวกบัลการ์
สรุปได้ว่า การที่บัลแกเรียหันมานับถือศาสนาคริสต์ ทำให้ชาวบัลการ์ที่แต่เดิมมีวัฒนธรรมแบบชนเผ่าผสมผสานกับชาวสลาฟ จนกลายเป็นฝรั่งเต็มตัว และทรงอิทธิพลทางด้านภาษา คือ อักษรซิริลลิก และวัฒนธรรม คือ ยศพระเจ้าซาร์ที่โลกยุโรปตะวันออกใช้เรียกกษัตริย์ของตนเองนั่นเอง
#TWCHistory #TWCBulgaria #TWC_Rama
0 Comment