การรบระหว่างอิสราเอล-ฮามาสกำลังเข้าสู่ช่วง 1 ปีครึ่ง ในขณะที่การเจรจาปล่อยตัวประกันกำลังดำเนินไปได้ดี กลับถูกหยุดชะงักและสันติภาพที่สร้างขึ้นพังทลายในพริบตา

แรงกระเพื่อมของสงครามเริ่มขยายวงกว้างกว่าที่ใครคาดคิด กลุ่มฮูตีในเยเมนตอบโต้ด้วยการโจมตีเรือสินค้าและกองเรือรบในทะเลแดง จุดชนวนให้สหรัฐฯ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ขึ้น

ขณะที่อิหร่านผู้ถูกว่าอยู่เบื้องหลังเริ่มถูกลากเข้ามาหน้าฉากในสมรภูมิความขัดแย้งครั้งนี้ด้วย..
________________________________

◾เกริ่นให้เข้าใจถึงฉากหลังของมหาอำนาจ
◾การพักรบต้นปี 2025 🤝
◾ข้อเสนอจากตัวกลางให้ทั้งสองฝ่าย ❓
◾ความสูญเสีย ⚰️
◾สันติภาพพังทลายภายใน 2 เดือน 🔥
◾ทรัมป์เปิดการโจมตีในทะเลแดง 🚀
◾อิหร่านคือผู้อยู่เบื้องหลัง
________________________________

🛢️เกริ่นให้เข้าใจถึงฉากหลังของมหาอำนาจ

1.ตั้งแต่การสู้รบระหว่างอิสราเอล-ฮามาสเปิดฉากขึ้นในเดือนตุลาคม 2023 เราจะเห็นตัวแสดงทางการเมืองระหว่างประเทศโดยเฉพาะมหาอำนาจ ออกมาแสดงจุดยืนของตัวเองว่าตนเองยืนหยัดอยู่ฝ่ายใดในความขัดแย้งครั้งนี้

สหรัฐยืดหยัดข้างอิสราเอลอย่างเข็มแข็งตั้งแต่ช่วงการเปิดฉากการโจมตี โดยการแสดงออกอย่างชัดเจน เช่น การจัดหาอาวุธและยุทโธปกรณ์ให้อิสราเอลหรือการส่งกองกำลังเรือบรรทุกเครื่องบินและเครื่องบินทหาร ไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง

2.ขณะที่อิหร่านนั้นแม้จะไม่แสดงตัวและปฏิเสธมาด้วยตลอด แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า อิหร่านนั้นอยู่เบื้องหลังในการสนับสนุนทั้งกลุ่มฮามาส และ กลุ่มฮูตีมาโดยตลอดทั้งการจัดหาเงินทุน อาวุธและยุทโธปกรณ์ และการฝึกยุทธวิธีทางการทหารให้แก่กลุ่มติดอาวุธ

ทำให้ฮามาสจึงมีกำลังมากที่จะเปิดการโจมตีอิสราเอลและเป็นฉนวนที่ทำให้เกิดสงครามครั้งนี้ขึ้น หรือแม้กระทั่งกลุ่มฮูตีเองที่ยกระดับศักยภาพที่มีให้มากพอที่จะโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในพื้นที่ทะเลแดงได้

3.ความขัดแย้งครั้งนี้จึงเป็นเหมือนฉากหน้าที่แสดงโดยอิสราเอลและฮามาส แต่ในฉากหลังนั้นมีมหาอำนาจและกลุ่มต่างๆ ที่คอยหยิบยื่นอาวุธให้ความขัดแย้งนี้ไปสู่จุดจบที่ตนเองคาดหวัง

🛢️การพักรบต้นปี 2025 🤝

4.การสู้รบระหว่างชาวอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ได้ดำเนินมาถึงจุดที่ทั้งสองฝ่ายสามารถยอมรับข้อตกลงบางส่วนกันได้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ความพยายามไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศ ได้นำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันครั้งใหญ่ ในเดือนมกราคม 2025 ภายใต้การประสานงานของกาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐ

อิสราเอลและฮามาสตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันในหลายขั้นตอน โดยมีเงื่อนไขว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกันที่เหลือ ซึ่งรวมแล้วราว 250 คน ตั้งแต่เหตุโจมตีในปี 2023 แลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ประมาณ 2,000 คน ที่ถูกคุมขังในอิสราเอล

5.โดยฮามาสเริ่มมีการปล่อยตัวผู้หญิงและเด็กชาวอิสราเอลที่ถูกจับ รวมทั้งคนงานชาวไทยบางส่วนที่ถูกคุมตัวในกาซา แลกกับผู้ต้องขังหญิงและเยาวชนชาวปาเลสไตน์เป็นชุดๆแล้ว โดยข้อตกลงนี้มีผลให้การสู้รบในกาซาหยุดลงตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2025 และถือเป็นการยุติสงครามที่ดำเนินมายาวนานถึง 15 เดือนเป็นการชั่วคราว

6. แม้จะไม่ใช่สนธิสัญญาสันติภาพถาวร แต่สิ่งนี้ก็เปิดโอกาสให้เกิดความพยายามเจรจาขั้นต่อไป ขณะเดียวกันบนเวทีระหว่างประเทศ สหประชาชาติและประเทศต่างๆ ยังคงกดดันให้เปลี่ยนหยุดยิงชั่วคราวนี้เป็นการยุติสงครามถาวร โดยเน้นย้ำหลักการว่า “ทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ” และให้ความคุ้มครองพลเรือนอย่างถึงที่สุด

7.อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ยังเป็นอุปสรรคคือเงื่อนไขระยะยาว ฮามาสต้องการให้อิสราเอลถอนกำลังออกจากกาซาอย่างสมบูรณ์และยุติการปิดล้อมฉนวนกาซา

ขณะที่ยืนยันจะยังไม่ยอมความจนกว่าตัวประกันทั้งหมดจะถูกปล่อยและฮามาสหมดศักยภาพในการโจมตีอีก ส่งผลให้การหยุดยิงในต้นปี 2025 เป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรมมากกว่าจะเป็นข้อตกลงสันติภาพถาวร

🛢️ข้อเสนอจากตัวกลางให้ทั้งสองฝ่าย ❓

8.ในเวทีระหว่างประเทศ ประเทศอาหรับและองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ได้จัดการประชุมฉุกเฉินหลายครั้ง เพื่อหาจุดยืนร่วมกันต่อสถานการณ์ปาเลสไตน์ ผลการประชุมอาหรับเหล่านี้เรียกร้องให้อิสราเอลหยุดโจมตีและเคารพสิทธิของชาวปาเลสไตน์อย่างแข็งขัน ซึ่งฮามาสได้ออกมาขานรับอย่างดี ในขณะที่อิสราเอลแสดงท่าทีวิจารณ์ว่าเป็นการประชุมที่มีมติเอนเอียง

9.ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งหลังการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์สร้างความปั่นป่วนให้ภูมิภาคแห่งนี้ไม่น้อยเมื่อเขาสร้างวาทะช็อกโลกด้วยการเสนอให้สหรัฐฯ เข้าควบคุมกาซาและพัฒนามันขึ้นมาใหม่

เขายังกล่าวต่อไปว่าสหรัฐฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการกำจัดระเบิดและอาวุธที่ยังไม่ระเบิดทั้งหมดในพื้นที่ และดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจที่สามารถสร้างงานและที่อยู่อาศัยให้กับประชากรได้ และจะทำให้พื้นที่ฉนวนกาซาเป็นริเวียราของตะวันออกกลาง

10.แผนการดังกล่าวหมายความว่า ชาวปาเลสไตน์กว่าล้านคนต้องอพยพออกจากพื้นที่แห่งนี้ และให้ประเทศเพื่อนบ้านของอิสราเอล เช่น อียิปต์และจอร์แดน รับชาวปาเลสไตน์ที่อพยพออกจากฉนวนกาซาไปอยู่อาศัยแทน โดยแนวคิดนี้ถูกปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงโดยกลุ่มพันธมิตรชาติอาหรับ

🛢️ความสูญเสีย ⚰️

11.ความสูญเสียหลังการสู้รบอย่างยาวนาน ตามข้อมูลของทางการสาธารณสุขปาเลสไตน์
ตัวเลขของผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ในกาซาเกินกว่า 46,600 คน ในตัวเลขนี้รวมทั้งนักรบและพลเรือน ทั้งยังกล่าวอ้างว่าผู้เสียชีวิตที่ระบุตัวตนได้กว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิง เด็ก หรือผู้สูงอายุ​

ขณะที่ฝ่ายอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตรวมแล้วกว่า 1,700 คน โดยรวมทั้งพลเรือนและทหาร รวมทั้งชาวต่างชาติที่เสียชีวิตด้วย

🛢️สันติภาพพังทลายภายใน 2 เดือน 🔥

12.สันติภาพที่เกิดขึ้นพังทลายลงโดยสิ้นเชิงในวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เมื่ออิสราเอลเปิดการโจมตีทางอากาศระลอกใหม่อีกครั้ง คำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์กล่าวว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลโจมตีฉนวนกาซาและคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 400 คน

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลกล่าวว่า เขาสั่งการโจมตีเนื่องจากฮามาสปฏิเสธข้อเสนอในการขยายเวลาหยุดยิง นอกจากนี้เขายังเรียกร้องให้ชาวกาซาหลีกหนีจากอันตรายและย้ายไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยกว่า โดยกล่าวหาว่าผู้บาดเจ็บทุกคนเป็นคนของฮามาส

ส่วนหนึ่งของเหตุเปิดการโจมตีระลอกใหม่มาจาก ที่ฮามาสยังคงจับตัวประกัน 59 คนจากประมาณ 250 คนเอาไว้ ฮามาสอ้างว่าอิสราเอลว่าเป็นฝ่ายทำให้ความพยายามของคนกลางในการเจรจาข้อตกลงถาวรเพื่อยุติการสู้รบตกอยู่ในความเสี่ยง

13.ท่าทีของนานาชาติต่อการโจมตีระลอกใหม่ อียิปต์และกาตาร์ซึ่งเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในข้อตกลงหยุดยิงร่วมกับสหรัฐฯ ประณามการโจมตีของอิสราเอล ในขณะที่สหภาพยุโรปกล่าวในแถลงการณ์ว่าเสียใจกับการหยุดยิงที่ล้มเหลว

ขณะที่รักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจําสหประชาชาติ กล่าวว่าความผิดที่เกิดการสู้รบอีกครั้งในฉนวนกาซา “อยู่ที่ฮามาสแต่เพียงผู้เดียว” เพราะฮามาสสามารถปล่อยตัวประกันเพื่อขยายเวลาหยุดยิงต่อไปได้แต่กลับเลือกการปฏิเสธและทําสงครามต่อไป

บทสรุปและสันติภาพของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้คงไม่เกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้…..

🛢️ทรัมป์เปิดการโจมตีในทะเลแดง 🚀

14.ผลกระทบของสงครามไม่จำกัดวงอยู่แค่ในแถบอิสราเอลเท่านั้น ต้องเท้าความตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากการรุกรานกาซ่าในปี 2023 กลุ่มฮูตีในเยเมนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้ตอบโต้ด้วยปฏิบัติการทางทหารหลายครั้ง โดยอ้างว่าต้องการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์และต่อต้านอิสราเอล

กลุ่มฮูตีเริ่มใช้โดรนและขีปนาวุธ โจมตีเรือสินค้าที่พวกเขาเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับอิสราเอล ส่งผลให้สายเดินเรือใหญ่หลายลำต้องใช้เส้นทางผ่านแหลมกู๊ดโฮปแทนการเดินเรือผ่านคลองสุเอซ

แหล่งข่าวกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า นับตั้งแต่เกิดสงครามที่กาซา กลุ่มฮูตีได้โจมตีเรือของกองทัพสหรัฐฯ ไปแล้ว 174 ครั้ง และโจมตีเรือพาณิชย์ 145 ครั้ง

15.เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้สั่งการให้เปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มฮูตีในเยเมนอย่างรุนแรง เพื่อตอบโต้การโจมตีเรือสินค้าในพื้นที่ทะเลแดง

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่าได้โจมตีเป้าหมาย 30 แห่งในเยเมนตั้งแต่วันที่ 15 ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง นับตั้งแต่ทรัมป์กลับสู่ทำเนียบขาว

16.ทรัมป์ระบุผ่านโซเชียลมีเดียว่า กลุ่มฮูตีได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจากอิหร่านอีกทั้งยังมีการยิงขีปนาวุธโจมตีอากาศยานของสหรัฐฯ รวมทั้งโจมตีกองกำลังและพันธมิตรของเรา

เขายังระบุอีกว่า “ถึงเวลาของพวกแกหมดลงแล้ว และการโจมตีของพวกแกจะต้องยุติลงตั้งแต่วันนี้ ไม่เช่นนั้น นรกจะกระหน่ำลงใส่แกอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน!” ทรัมป์โพสต์ผ่าน Truth Social ​

17.ฝ่ายสาธารณสุขของกลุ่มกบฎฮูตีรายงานว่า การโจมตีทางอากาศครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 คนและบาดเจ็บกว่า 101 คน

18.ฝ่ายกบฏฮูตีประกาศว่าจะตอบโต้การโจมตีของสหรัฐฯ และจะยังคงโจมตีเรือในทะเลแดงต่อไป โดยยืนยันว่าจะโจมตีเรือที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลต่อไปจนกว่าสงครามในฉนวนกาซาจะยุติ

มีความพยายามจากฮูตีในการยิงขีปนาวุธและโดรนโจมตีเรือรบสหรัฐฯ ที่ลาดตระเวนในทะเลแดงอย่างต่อเนื่องแม้ว่ากองทัพเรือสหรัฐฯ จะสามารถสกัดกั้นการโจมตีส่วนใหญ่ได้ก็ตาม แต่สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มฮูตีในการตอบโต้สหรัฐฯ

19.นอกจากปฏิบัติการทางทหารต่อกบฎฮูตีโดยตรงแล้ว ทรัมป์ยังใช้มาตรการกดดันทางการทูตต่อตัวการที่เขาระบุว่าอยู่เบื้องหลังการสนับสนุนกลุ่มฮูตีนั่นคือรัฐบาลอิหร่าน

🛢️อิหร่านคือผู้อยู่เบื้องหลัง

20.โดยทรัมป์ยังโพสต์ผ่าน Truth Social อีกว่านับจากนี้เป็นต้นไป กระสุนทุกนัดที่กลุ่มฮูตียิงออกมา จะถือว่าเป็นกระสุนที่ยิงจากอาวุธและผู้นำของอิหร่าน และอิหร่านจะต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เลวร้ายสำหรับอิหร่าน

เหตุเพราะผู้นำสหรัฐฯ กล่าวหาอิหร่านว่าจัดหาเงินทุน อาวุธ และข่าวกรองให้กับกลุ่มฮูตี ซึ่งทางรัฐบาลอิหร่านได้ออกมาปฏิเสธต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว

21.ในช่วงเดียวกันรัฐบาลทรัมป์ได้เพิ่มความเข้มงวดของมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านอีกระลอก เพื่อบั่นทอนแหล่งทุนที่อิหร่านใช้สนับสนุนฮามาสและฮูตี และกดดันให้อิหร่านกลับสู่โต๊ะเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน

22.อิหร่านมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในความขัดแย้งรอบสงครามอิสราเอล-ฮามาสครั้งนี้ เนื่องจากอิหร่านเป็นผู้สนับสนุนหลักของทั้งกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์และกลุ่มฮูตีในเยเมนมายาวนาน

นอกจากแรงจูงใจในด้านอุดมการณ์ทางศาสนาแล้ว อิหร่านยังมีแรงจูงใจทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่สอดแทรกอยู่ในความขัดแย้งครั้งนี้ด้วย

23.เนื่องจากสหรัฐฯ ก็กำลังผลักดันดีลสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างอิสราเอลกับซาอุดีอาระเบียให้เกิดขึ้น ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงอิหร่านจะยิ่งถูกโดดเดี่ยวจากชาติในตะวันออกกลางยิ่งขึ้น

นักวิเคราะห์จำนวนมากจึงตั้งข้อสังเกตว่าอิหร่านย่อมยินดีมากกว่า ที่สงครามครั้งนี้จะทำให้ดีลสันติภาพดังกล่าวถูกพับการเจรจาลง และความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างชาติอาหรับกับอิสราเอลหวนกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่อิหร่านคุ้นเคยและสามารถแผ่อิทธิพลได้ง่ายกว่า

24.สรุปได้ว่าความขัดแย้งในภูมิภาคแห่งนี้ มีส่วนเชื่อมโยงกันอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการเมือง ศาสนาและอุดมการณ์ ยอดผู้เสียชีวิตที่ต้องสังเวยไปกับความขัดแย้งจะไม่มีวันจบสิ้น หากผู้มีอำนาจทั้งในภูมิภาคและนอกภูมิภาค ยังไม่ค้นพบแนวทางสันติภาพร่วมกันเสียที

#TWCSummary #TWCIsrael #TWCPalestine #TWCUsa #TWCIran #TWCSalmon