เสกหนังวัวเข้าท้อง เสกควายธนูไปขวิดคน ปอบกับกระสือ… เหล่านี้เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคุณไสยมนต์ดำที่เชื่อว่าแม้แต่คนยุคปัจจุบันยังคงพอรู้จักกันอยู่บ้าง ซึ่งข่าวการใช้คุณไสยทำร้ายกันก็ยังปรากฏอยู่ในสื่อเป็นระยะๆ

หากจะพูดถึงไสยศาสตร์หรือมนต์ดำ เชื่อว่าหลายท่านคงคิดถึงสิ่งที่เรียกว่า “ไสยศาสตร์เขมร” เชื่อว่าเป็นวิชาที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันและยังมีคนประกาศตัวว่าเป็นผู้มีวิชาอาคมรับจ้างทำคุณไสยต่างๆ อยู่

บทความนี้จึงจะขอพาทุกท่านมาทำความเข้าใจ “ไสยศาสตร์เขมร” แบบคร่าวๆ กันนะครับ

ก่อนที่จะไปต่อ ควรทราบก่อนว่าไสยศาสตร์เขมรนี้จริงๆ ก็มีแบ่งประเภทออกไปอีกเป็น “ไสยขาว” เพื่อการรักษา, ไสยศาสตร์เพื่อการป้องกัน พวกคาถาอาคมคงกระพันที่ใช้ตะกรุด ผ้ายันต์หรือสักยันต์ เป็นต้น และ “ไสยดำหรือมนต์ดำ” คือไสยศาสตร์เพื่อการทำลาย

ซึ่งไสยดำหรือมนต์ดำนี้เป็นความรู้ที่อันตรายพอสมควร ผู้ที่เรียนจะมีชีวิตที่ไม่เจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้หากไม่รู้จัก “ปล่อยของ” ออกไปบ้างในระยะเวลาที่กำหนดก็จะเกิดของเข้าตัวได้ ทำให้ตัวเองและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนต่างๆ

ในความเชื่อของชาวเขมร จะมีวิญญาณอยู่สองชนิดที่เกี่ยวข้องกับผู้มีวิชาอาคม คือ “ปอบ” กับ “กระสือ”

ปอบเกิดจากผู้หญิงที่มีมนต์มหาเสน่ห์แต่มนต์เข้าตัว เวลากลางคืนวิญญาณปอบที่อยู่ในร่างจะออกมาเป็นดวงไฟสีเขียวหรือม่วง อาจมีไส้เจ้าของร่างออกมาด้วยหรือไม่แล้วแต่ความเชื่อ แล้วออกไปหากินลูกกบลูกเขียดหรือของโสโครก วิญญาณปอบจะไม่สามารถแยกออกจากเจ้าของร่างได้ ถ้าตายก็ตายพร้อมกัน แต่ผู้มีอาคมอาจใช้คาถาขับให้ปอบออกจากตัวได้โดยไม่ทำอันตรายเจ้าของร่าง

ส่วนกระสือนั้นเกิดจากผู้มีอาคมแก่กล้าที่ควบคุมมนต์คาถาได้แล้วแตกกลายเป็นกระสือ ลักษณะเป็นดวงไฟคล้ายกับปอบ แต่ไม่ได้กินเหมือนกับปอบ เล่าว่าลอยขึ้นสูงกินขี้เมฆขี้ดาวเป็นอาหาร นอกจากนี้กระสือยังต่างจากปอบตรงที่ไม่ต้องพึ่งพาเจ้าของร่าง แต่เจ้าของสามารถเอาไปใส่ตลับหรือผอบฝังดินไว้แล้ววิญญาณกระสือจะออกหากินเอง

ทีนี้มาถึงพิธีกรรมทางไสยศาสตร์เขมร ซึ่งมีตัวอย่างอยู่หลายอย่าง เช่น

  1. เสกกรรไกรเงิน กรรไกรทอง หรือเสกหนังวัวหนังควายเข้าท้อง ผู้มีอาคมจะเสกให้วัตถุเหล่านี้มีขนาดเล็กแล้วลอยเข้าปากของเป้าหมาย ต่อมาวัตถุจะขยายขนาดขึ้นในท้องสร้างความทุกข์ทรมานอาจถึงแก่ชีวิตได้ จำต้องแก้โดยผู้มีอาคมอีกคน
  2. ใช้เสี้ยนไม้หรือเข็มทำอันตรายกับหุ่นแล้วจะมีผลกับเป้าหมายจริงคล้ายกับศาสตร์วูดู มีทั้งแบบเสกให้ตายทันทีหรือแฝงเป็น “ระเบิดเวลา” เช่น รอให้เป้าหมายกินหมูก่อนค่อยออกฤทธิ์ เป็นต้น
  3. เสกวัวควายธนูไปทำอันตรายเป้าหมาย ซึ่งจริงๆ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ แบบใช้ดินปั้นรูปวัวเสก กับแบบใช้ธนูอาคม เอาธนูหรือหน้าไม้ยิงลูกใส่หุ่นลงอาคมเป้าหมาย ให้เกิดอันตรายต่างๆ

ปัจจุบันไสยศาสตร์เหล่านี้ค่อยๆ สูญหายไปเพราะมีผู้สืบทอดน้อยลง และอย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า เขาถือกันว่าผู้ที่เรียนคุณไสยมนต์ดำเหล่านี้จะมีชีวิตไม่ราบรื่นนั่นเอง