หลายคนคงรู้จักกับชื่อของมีเกลันเจโล หรือ “ไมเคิลแองเจโล” ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ของยุคเรเนซองส์เป็นอย่างดี แต่วันนี้ The Wild Chronicles จะพาไปทำความรู้จักกับบุคคลที่ได้รับขนานนามว่า “ไมเคิลแองเจโลแห่งเอเชีย” อย่าง “ซานาบาซาร์” กันครับ
“ออนดอร์ เกกีน ซานาบาซาร์” เป็นบุตรของข่านมองโกลคนหนึ่งในช่วงศตวรรษที่ 17 ซึ่งตัวเขานั้นฉายแววสติปัญญาขั้นสูงตั้งแต่อายุสามขวบ เนื่องจากสามารถท่องจำบทสวดมนต์พระโพธิสัตว์มัญชุศรีได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังแสดง “ความอัจฉริยะ” เหนือเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันอย่างเป็นที่ประจักษ์
ด้วยเหตุนี้ซานาบาซาร์จึงได้รับการสนับสนุนให้ออกบวชเป็น “ลามะ” ตั้งแต่เยาว์วัย และด้วยความเทพของเขา ส่งผลให้ซานาบาซาร์ได้รับการประกาศให้เป็น “ผู้นำทางจิตวิญญาณ” ของชาวมองโกลในปี 1639
…ทั้งที่ตอนนั้นเขามีอายุเพียง 4 ขวบเท่านั้น! …
โดยต่อมา “ดาไลลามะที่ 5” ยังให้ยอมรับอีกว่า ซานาบาซาร์เป็นอวตารของเจ็ทซุนธรรมปะ ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ 500 คนแรกของพระพุทธเจ้า พร้อมพระราชทานตำแหน่ง “บ็อกด์เกจีน” หรือนักบุญผู้ตรัสรู้สูงสุด มีสถานะเป็นพระลามะที่มีตำแหน่งสูงสุดในมองโกเลีย
นอกจากนี้เขายังเป็นทั้งจิตรกร ประติมากร สถาปนิก กวี นักออกแบบเครื่องแต่งกาย นักภาษาศาสตร์ และนักปราชญ์ รวมถึงสามารถสร้างผลงานศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์สวยงามของตนเองขึ้นมา
…เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความอัจฉริยะรอบด้าน… ส่งผลให้ชาวมองโกลยกย่องซานาบาซาร์เป็นผู้นำสูงสุดของตน
โดยปกติแล้วจุดเด่นของผู้นำชนเผ่าทุ่งหญ้ามักเป็นที่กล่าวขานถึงความเก่งกาจในการต่อสู้ …แต่ซานาบาซาร์นั้นแตกต่าง! …
เพราะเขาเป็น “ยอดนักเจรจา” และความเป็น “ศิลปินเลื่องชื่อ” ที่ใครๆ ล้วนต้องการผลงานล้ำค่าเหล่านั้น ส่งผลให้เขาดำเนินนโยบายการทูตด้วยผลงานศิลปะให้กลายเป็น “ของขวัญตอบแทน” และสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างมองโกลกับชาติมหาอำนาจอื่นๆ สำเร็จลุล่วงเป็นอันมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผ่นดินจีนในยุคของ “ฮ่องเต้คังซี” แห่งราชวงศ์ชิง ที่มีความเลื่อมใสต่อซานาบาซาร์และผลงานศิลปะของเขา รวมถึงยังแต่งตั้งเขาเป็นราชครู ทำให้ซานาบาซาร์สามารถนำมองโกลสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ชิง แล้วใช้กำลังกองทัพแมนจูปราบศัตรูอื่นๆ จนหมดสิ้น
ช่วงตลอดเวลาที่ซานาบาซาร์มีชีวิตอยู่นั้น เขาทำนุบำรุงมองโกลให้มีความรุ่งเรืองทางศิลปะวัฒนธรรมมิได้แพ้นานาอารยประเทศยุคนั้น ซึ่งผลงานของเขาจะเน้นความอ่อนช้อย สง่างาม เอกลักษณ์ชัดเจน และได้รับอิทธิพลจากศิลปะเนปาล
…อีกทั้งเขายังได้รับการยอมรับว่าเป็นศิลปินที่เป็นเลิศในหมู่ประเทศพุทธในเอเชียและยิ่งใหญ่ที่สุดของมองโกเลีย จนได้รับการขนานว่า “ไมเคิลแองเจโลแห่งเอเชีย” …
นอกจากนี้ซานาบาซาร์ยังสร้างสรรค์ผลงานที่ทรงอิทธิพลมากมายให้แก่มองโกเลีย ไม่ว่าจะเป็น “อักษรสยมภู” ซึ่งช่วยสำหรับแปล และอ่านภาษาทิเบต-สันสกฤต-มองโกลแบบง่าย, สัญลักษณ์ประจำชาติมองโกเลียอย่าง “ดวงตราสยมภู”, ออกแบบวัด ออกแบบเครื่องแต่งกายลามะแบบใหม่ รวมถึงคิดทำนองบทสวดมนต์ในแบบใหม่ฉบับมองโกล
และเมืองหลวงปัจจุบันของมองโกเลียอย่าง “อูลันบาตอร์” นั่นคือเมืองที่ซานาบาซาร์สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของเขาอีกด้วย!
…ซานาบาซาร์เสียชีวิตในปี 1723 ขณะที่เขาไปเข้าร่วมพิธีศพของฮ่องเต้คังซี ณ กรุงปักกิ่ง…
ต่อมาในยุคที่มองโกเลียปกครองแบบคอมมิวนิสต์ ซานาบาซาร์ยังได้รับการยอมรับในฐานะ “นักวิชาการ” ที่มีชื่อเสียงจากความสำเร็จทางศิลปะและวัฒนธรรมของเขา (แต่บทบาททางศาสนากลับไม่ได้ถูกพูดถึงในยุคนี้)
ทว่าในมุมมองทางการเมืองกลับแตกต่างออกไป โดยซานาบาซาร์ถูกเจ้าหน้าที่ภาครัฐวาดภาพว่าเป็น “ผู้ทรยศและหลอกหลวง” จากการเข้าร่วมสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ชิง
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองโกเลียเข้าสู่ยุคประชาธิปไตย ข้อครหาในฐานะผู้ทรยศของซานาบาซาร์ก็ถูกสลัดทิ้งไป เนื่องจากถูกตีความใหม่ว่า การเข้าร่วมสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ชิงนั้นถือเป็นผลประโยชน์ระยะยาวของมองโกเลีย
ปัจจุบันซานาบาซาร์ได้รับการยกย่องในฐานะบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของมองโกเลีย ที่สร้างเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมให้กับชาวมองโกล อีกทั้งผลงานทางศิลปะของเขายังได้รับการยกย่องว่าเป็นจุดสุดยอดของการพัฒนาสุนทรียภาพของชาวมองโกเลีย และก่อให้เกิดการฟื้นฟูทางวัฒนธรรมในหมู่ชาวมองโกลในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 อีกด้วย
…ซึ่งปัจจุบันผลงานของเขาถูกจัดเก็บรวบรวมไว้ที่ “พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ซานาบาซาร์” เมืองอูลันบาตอร์นั่นเอง…
#TWCHistory #TWCome
0 Comment