จากที่รัฐบาลทหารพม่าได้รบพ่ายแพ้ติดต่อกันหลายสมรภูมิ จนสูญเสียพื้นที่ราวครึ่งประเทศให้กับฝ่ายต่อต้านกลุ่มต่างๆ ไพร่พลต่างเสียขวัญระส่ำระสาย จนรัฐบาลต้องประกาศให้เกณฑ์คนหนุ่มสาวทุกคนเป็นทหารโดยไม่เลือก

ภายใต้กฎอัยการศึกผู้ชายทุกคนที่อายุ 18-35 และผู้หญิงทุกคนที่อายุ 18-27 ปี ต้องเข้าเป็นทหารฝ่ายรัฐบาล

…ถ้านี่เป็นการสู้ปกป้องชาติจากอริราชศัตรูก็เรื่องหนึ่ง

… แต่ชาวพม่าจำนวนมากเห็นว่ารัฐบาลทหารซึ่งทำรัฐประหารรัฐบาลจากการเลือกตั้งขึ้นมานั้นมิใช่ตัวแทนของพวกเขา …ยามคับขันไม่มีใครอยากไปตายให้

ด้วยเหตุนึ้ชาวพม่าที่ไร้ทางเลือกจึงทะลักทะลายหนีตายไปทำวีซ่าเข้าประเทศไทย ซึ่งสถานทูตไทยมีกำลังทำวีซ่าเพียงวันละ 400 คน ขณะที่คนที่อยากออกนอกประเทศมีเป็นแสน

พวกเขาปักหลักค้างคืนหน้าสถานทูต จนถึงเที่ยงคืนเจ้าหน้าที่จะเริ่มมาจัดคิว และพอถึงตีสามของวันต่อมาพวกเขานับหมื่นต้องแย่งกันเข้าไปเอาบัตรคิว ซึ่งคนที่ได้ก็สามารถรอถึงเวลาที่สถานทูตเปิดในตอน 9 โมงเช้า

…แต่คนที่พลาดก็ต้องปักหลักต่อไป…

ลักษณะนี้ทำให้มีผู้คนเบียดเสียดกันเป็นอันมากหน้าสถานทูตไทย

ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้บัดนี้มีคนถูกเบียดตายไปแล้วอย่างน้อยสองคนเป็นที่น่าอเนจอนาถ

… นี่เป็นเพียงคนพม่าที่เข้าเมืองไทยอย่าง “ถูกต้อง” ….

ลองนึกสภาพว่าในชั่วโมงนี้ คนพม่าที่พยายามหนีเข้าไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติ หรือคนที่เข้ามาด้วยวีซ่าฟรี 14 วันแล้วหลบหนีจะมีมากแค่ไหน

ปัจจุบันประมาณว่ามีคนพม่าอาศัยอยู่ในไทยอย่างน้อย 1.5 ล้านคน

และเมื่อสงครามกลางเมืองดำเนินไปถึงขั้นนี้ก็คงจะมีคนอพยพเข้ามาอีกเป็นอันมาก

…พม่าจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว …และสิ่งนี้จะกระทบถึงประเทศไทยด้วย…

#twcnews #twcmyanmar