*** เรื่องน่ารู้ของตึก One World Trade Center (สร้างแทนตึกที่ถูกถล่มในเหตุ 911) ***
ในปี 2006 การก่อสร้างตึกแห่งใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นบนพื้นที่เดิมของตึกแฝดเวิร์ดเทรดเซนเตอร์ที่นครนิวยอร์ค ซึ่งถล่มลงจากเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001
ตอนแรกชื่อของมันคือ “ตึกอิสรภาพ” หรือ Freedom Tower ก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็น “วันเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์” (One World Trade Center) เหมือนที่เคยใช้เรียกตึกเดิมในปี 2009 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2014
เราจะไปดูเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยน่าสนใจเกี่ยวกับตึกนี้ด้วยกันนะครับ โดยผมได้นำภาพอินโฟกราฟฟิคมาแปลไทย พร้อมเสริมข้อมูลน่ารู้อื่นๆ ให้ทุกคนได้อ่านกันด้วย…
เรื่องของตึกเวิร์ลเทรดเก่า และใหม่
ตึกเดิมที่ตั้งเด่นเป็นสง่าในบริเวณนั้นก่อนจะมีการสร้างวันเวิร์ลเทรดฯ ขึ้นมา คือตึกแฝดเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ที่เรารู้จักกันดี
สองตึกถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1968 – 1971 ในฐานะศูนย์กลางของย่านธุรกิจในนิวยอร์ก และหลังจากนั้นก็มีการสร้างตึกเล็กๆ รอบๆ ในบริเวณเดียวกัน
…ในหมู่ตึกนี้ประกอบด้วยหน่วยงานและบริษัทกว่า 430 ราย รวมทั้งสถานเอกอัคราชทูตไทยและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่มีสำนักงานตั้งอยู่บนชั้น 34
ตึกแฝดตั้งอยู่ได้เพียง 30 ปี ก็ถล่มลงมาด้วยการก่อการร้ายของกลุ่มอัลเคดา ส่งผลให้สหรัฐฯ ประกาศทำสงครามในอัฟกานิสถานและอิรัก ซึ่งดำเนินมาราว 20 ปี และเพิ่งสิ้นสุดลงแบบไม่สวยนักในเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมา
หลังพื้นที่เก่าของเวิร์ลเทรดฯ ได้รับการเคลียร์ซากปรักหักพังออกไป ก็มีการเริ่มก่อสร้างตึกใหม่คือ วันเวิร์ลเทรดฯ ในปี 2006
…ในปี 2011 แม้จะยังสร้างไม่เสร็จดี แต่ก็มีการใช้งานภายนอกเป็นครั้งแรก โดยการฉายไฟขึ้นไปยังตึกเป็นสีธงชาติสหรัฐฯ ในวันชาติ (4 ก.ค.) และ และรำลึกเหตุการณ์ครบ 10 ปี (11 ก.ย.) ซึ่งต่อจากนั้นก็มีการฉายไฟในโอกาสอื่นๆ เช่น ช่วงเทศกาลสิ้นปี ก็ฉายไฟหลากสี เป็นต้น
พื้นที่และการสร้าง
พื้นที่ของตึกเวิร์ลเทรดแต่เดิมมีอยู่ 16 เอเคอร์ (เกือบๆ 65,000 ตารางเมตร) มีหน่วยงานรัฐเข้าร่วมการก่อสร้าง 19 ราย เอกชนอีก 2 ราย ลูกจ้างอื่นๆ อีก 101 เจ้า และใช้สถาปนิก, นักออกแบบ, บริษัทที่ปรึกษาอีก 33 ราย
โดยปกติ มีคนงานก่อสร้างทำงานนี้มากกว่า 2,500 คนต่อวัน ซึ่งการขึ้นลงจะทำให้เสียเวลาอย่างยิ่ง ทำให้มีการสร้างห้องน้ำรวมทั้งร้านขายแซนด์วิชชั่วคราว ซึ่งจะเคลื่อนไปตามชั้นที่ทำงาน โดยระบบไฮดรอลิก
ข้อมูลของตึก
ตึกวันเวิร์ลเทรดมีความสูง 1,776 ฟุต (ราว 541 เมตร) เป็นตึกที่สูงที่สุดในสหรัฐฯ สูงที่สุดในโลกตะวันตก และสูงเป็นอันดับที่ 6 ของโลก ตามหลังอันดับหนึ่งคือ ตึกเบิร์จ คาลิฟา ที่ดูไบอยู่ 941 ฟุต หรือ 287 เมตร
…ตัวเลข 1776 นี้ มาจากปีค.ศ.ที่สหรัฐฯ ประกาศอิสรภาพ
โครงสร้างตึกประกอบด้วยเสาสัญญาณสูงขนาด 408 ฟุต ที่กระพริบสัญญาณไฟเป็นตัวอักษร N ที่หมายถึงนิวยอร์คในรหัสมอร์ส
หากนับจากด้านล่าง จุดชมวิวของตึกวันเวิร์ลเทรดจะอยู่ที่ความสูง 1,362 ฟุต (ประมาณ 415 เมตร) เท่ากับความสูงเดิมของตึกเวิร์ดเทรดฯ อาคารสอง (ตึกใต้) และหากนับรวมหลังคาแก้วด้านบนขึ้นไป จะได้ความสูง 1,368 ฟุต (ราว 417 เมตร) เท่ากับความสูงเดิมของตึกหนึ่ง (ตึกเหนือ)
ตึกนี้มี 94 ชั้น แต่หากนับโดยความสูงระดับชั้นมาตรฐาน จะกลายเป็น 104 ชั้น เพราะชั้น 91 เพดานสูงกว่าปกติ เนื่องจากเป็นชั้นเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการณ์
ช่วงพีคที่สุด คนงานสร้างชั้นสำหรับออฟฟิศได้หนึ่งชั้นในเวลาเพียงหนึ่งอาทิตย์ ซึ่งในปี 2013 คาดการณ์กันว่าจะต้องใช้งบทั้งหมด 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่เมื่อสร้างเสร็จ ก็ปิดงบไปที่ 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
คอนกรีตที่ใช้ก่อสร้างตึกนี้ มาจากบริษัท iCRETE ผสมในบรูคลิน แล้วส่งมายังเขตก่อสร้างตึกวันเวิร์ลเทรดในทันที เพราะต้องใช้ภายใน 90 นาที
คอนกรีตดังกล่าวทนทานและรับแรงได้มากกว่าคอนกรีตแบบอื่นๆ ในตึกสูงของนิวยอร์คได้เกือบ 3 เท่า และตัวตึกยังประกอบไปด้วยเหล็ก 45,000 ตัน ซึ่งมากจนสร้างหอไอเฟลได้ 6 ตึก แต่ทั้งนี้ วัสดุก่อสร้างในอาคารราว 80% มาจากการรีไซเคิล จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สิ่งก่อสร้างอื่นๆ
ในบริเวณรอบๆ วันเวิร์ลเทรดฯ ยังมีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญคือ อนุสรณ์สถาน 9/11 ประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์และบ่อน้ำตกความลึก 30 ฟุต จำนวน 2 บ่อ ตรงจุดที่ตึกแฝดเคยตั้งอยู่ ล้อมรอบด้วยแผ่นป้ายเหล็กที่มีการสลักชื่อของผู้เสียชีวิตจากเหตุวินาศกรรมตึกแฝดทั้งในปี 1993 และ 2001
ในบ่อทั้งสอง มีน้ำมากถึง 450,000 แกลลอน ซึ่งสามารถเติมท่อให้ตึกเอมไพร์สเตทให้เต็มทั้งตึกได้ 50 รอบ และความพิเศษของบ่อน้ำนี้คือ ในฤดูหนาว น้ำจะถูกให้ความร้อน จะได้ไม่กลายเป็นน้ำแข็ง และในหน้าร้อน จะมีการเพิ่มปริมาณน้ำลงไป ให้มันไหลได้ตลอดทั้งปี
รอบๆ อนุสรณ์สถาน มีการปลูกต้นโอ๊คขาวบึงไว้มากกว่า 400 ต้น จากรอบๆ เมืองนิวยอร์ก รวมทั้งจากเพนซิลวาเนียและวอชิงตันดีซี ซึ่งเป็นอีกสองแห่งที่เกิดเหตุเกี่ยวข้องกับวินาศกรรมครั้งนี้
คาดว่าหากนำต้นไม้ทั้งหมดมาชั่งน้ำหนัก ก็คงจะหนักกว่าเทพีเสรีภาพถึง 30 เท่าเลยทีเดียว
สิ่งก่อสร้างรอบๆ ในบริเวณนี้ยังมี สถานีขนส่งสาธารณะ, ตึกสำนักงานอีก 6 ตึก และมีศูนย์ศิลปะการแสดง ซึ่งวางแผนจะสร้างแล้วเสร็จในปี 2022 ไม่ก็ 2023
และทั้งหมดนี้เอง คือที่มาที่ไปและข้อมูลเบื้องต้นของอาคารวันเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากซากปรักหักพังของตึกแฝดที่พังถล่มไปเมื่อ 20 ปีก่อน
…ถือเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของนครนิวยอร์ค ส่องแสงสว่างเด่นชัดยามค่ำคืน และเป็นภาพแทนของชาวอเมริกาที่อดทนและเข้มแข็งพอจะลุกขึ้นมาใหม่ได้นั่นเอง
0 Comment