ใจกลางเมืองบูคาเรสต์ เมืองหลวงแห่งประเทศโรมาเนีย เป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภาประจำประเทศโรมาเนีย ซึ่งเป็นที่โด่งดังในชื่อของ “พระราชวังประชาชน” (People’s Palace) หรือ “บ้านแห่งสาธารณรัฐ” (House of the republic)
รัฐสภาแห่งนี้มีความหรูหรา ใหญ่โต จนเปรียบเสมือนปราสาทมากกว่าเป็นรัฐสภาเสียอีก โดยอาคารแห่งนี้มีความสูงถึง 84 เมตร และมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 365,000 เมตร จึงทำให้ในอดีตที่นี่ถือเป็นรัฐสภาที่ใหญ่ที่โลก แต่ปัจจุบัน โดนแทนที่ด้วย “สัปปายะสภาสถาน” รัฐสภาของไทย
แม้อาคารจะใหญ่โตแค่ไหน แต่ดันมีที่ว่างตั้ง 70 % โดยภายในอาคารมีห้องรัฐสภาโรมาเนียทั้งหมดสองห้อง มีพิพิธภัณฑ์ทั้งหมดสามห้อง และมีศูนย์การประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ และที่สำคัญ…อาคารนี้มีน้ำหนักมากถึง 4,098,500 กิโลกรัม จนทำให้ที่นี่กลายเป็นอาคารที่หนักที่สุดในโลก
ย้อนกลับไปในอดีต ช่วงปี 1971 ในตอนนั้น นิโคไล เชาเชสกู ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐสังคมนิยมโรมาเนีย มีแนวคิดเกี่ยวกับการวางผังเมืองโรมาเนียแบบใหม่ โดยวางแผนให้เมืองหลายเมืองต้องรื้อถอนอาคารบางแห่งออกไป แล้วสร้างอาคารขนาดใหญ่ขึ้นมาแทนที่
ระหว่างการดำเนินโครงการวางผังเมืองของนิโคไล ก็มีการใช้เงินไปจำนวนเยอะมาก ซึ่งการบริหารของนิโคไลเน้นปรับเปลี่ยนชนบทให้กลายเป็นสังคมเมือง เช่น หากหมู่บ้านไหนที่มีคนอยู่ไม่ถึง 1,000 คน จะต้องถูกทำลายหมู่บ้านหรือไม่ประชาชนก็ต้องย้ายออกไป นั่นหมายความว่าหมู่บ้านที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่บางแห่งก็ต้องถูกทำลายไปเช่นกัน ประชาชนที่เป็นชาวนา ชาวสวนทั่วไป ก็ไม่สามารถที่จะปลูกบ้านหลังเล็กๆ อยู่ได้ เพราะมันขัดกับแผนวางผังเมืองของนิโคไลที่ต้องสร้างอาคารขนาดใหญ่อย่างเดียวเท่านั้น
และในปี 1980 ก็ได้มีปรับเมืองบูคาเรสต์ให้เป็นศูนย์กลางทางการบริหารการเมืองและเป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศ จึงทำให้บริเวณของเมืองนี้จะมีความโอ่อ่าเป็นพิเศษ รวมไปถึงการสร้างอาคารรัฐสภาในปี 1984 ตรงบริเวณนี้ด้วยนั่นเอง
ตัวอาคารรัฐสภาได้ก่อสร้างตามแบบศิลปะสังคมนิยมและนีโอคลาสสิกโมเดิร์น อีกทั้งยังถูกสร้างในช่วงที่นิโคไลเริ่มสร้างลัทธิบูชาตัวบุคคล จึงทำให้ที่นี่มีความหรูหราฟุ้งเฟ้อ โดยมีการเปิดเผยว่าค่าทำความร้อนและค่าไฟฟ้าเทียบเท่ากับเมืองระดับกลางเลยทีเดียว
พอนานเข้า ประชาชนบางกลุ่มเริ่มทนทุกข์กับสภาพสังคมและเศรษฐกิจในตอนนั้น ประชาชนเริ่มจนลงเรื่อยๆ มาตรฐานการใช้ชีวิตเริ่มแย่ลง บางคนถึงขั้นไม่มีที่อยู่อาศัย ทั้งหมดนี้เป็นผลพวงมาจากการบริหารของนิโคไลที่ไม่ได้ใช้งบประเทศดูแลประชาชนเลย ดังนั้นประชาชนบางกลุ่มเลยต้องการที่จะปลดนิโคไลลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งโรมาเนีย
เดือนธันวาคม ปี 1988 ช่วงปลายสงครามเย็น ผู้คนออกมาประท้วงเรียกร้องให้นิโคไลลงจากตำแหน่งประธานาธิบดี จนกลายเป็นการจลาจลช่วงสั้นๆ ที่เรียกกันว่า ‘การปฏิวัติโรมาเนีย’ พวกทหารจากที่แรกๆ เป็นฝ่ายปราบปรามประชาชน ภายหลังก็เข้าไปร่วมประท้วงกับประชาชนแทน ถึงขนาดว่ามีบางคนบอกว่าทหารไม่คิดจะยิงประชาชนเลยด้วยซ้ำ โดยในช่วงเวลาการประท้วงใช้เวลาไปทั้งหมด 14 วัน มีคนเสียชีวิตไปประมาณ 1,000 คน
เมื่อการปฏิวัติจบลง นิโคไลก็ถูกจับกุมด้วยเหตุผลที่ว่าทำให้เศรษฐกิจบ้านเมืองเสียหายอย่างแรงและทำร้ายประชาชน จนถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปี 1989
ปัจจุบันปราสาทรัฐสภาแห่งนี้เป็นที่ตั้งของวุฒิสภาโรมาเนียและสภาผู้แทนราษฎรโรมาเนีย ด้านในบางส่วนของอาคารก็ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมได้ ที่นี่จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะอาคารมีความยิ่งใหญ่ และมีการตกแต่งภายในที่หรูหราจากการใช้วัสดุหินอ่อนต่างๆ
#TWCHistory #TWCRomania #TWC_Rama
0 Comment