ชารีบูจิน อัลตันตูยา (Shaariibuugiin Altantuyaa) เป็นหญิงสาวชาวมองโกเลีย เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดี อายุ 28 ปี มีการศึกษา เธอพูดได้ถึง 4 ภาษาและกำลังมีอนาคตที่สดใสในอาชีพล่ามระหว่างประเทศ

แต่เธอจบชีวิตอย่างน่าสยดสยอง…

เสียงระเบิดดั่งสนั่นกลางป่าของมาเลเซีย ร่างเธอแหลกไม่มีชิ้นดี…

ร่างถูกระเบิดด้วย C-4 ที่สงวนเฉพาะหน่วยงานความมั่นคงเท่านั้น..

ไม่ใช่คดีฆาตกรรมทั่วไปแต่ได้กลายเป็น “เงามืด” ในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศ…

ติดตามรับชมไปพร้อมกัน…
______________________

🕊️ เงินจำนวน 5 แสน
🕊️ ระเบิด
🕊️ ความจริงถูกเปิดเผยจริงหรือ?
🕊️ ผลตัดสินที่แสนเศร้า
🕊️ บทส่งท้าย
_____________________

🕊️ เงินจำนวน 5 แสน

1. ชารีบูกีน อัลตันตูยา เธอเป็นนักแปลและนางแบบชาวมองโกเลีย เกิดเมื่อปี 1978 เธอสามารถพูดได้หลายภาษา ซึ่งทำให้เธอมีหน้าที่ในฐานะล่ามในการติดต่อธุรกิจระหว่างประเทศ

2. ปี 2004 เธอเริ่มมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ อับดุล ราซัค บากินดา (Abdul Razak Baginda) ที่ปรึกษาใกล้ชิดของ นาจิบ ราซัก (Najib Razak) รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในขณะนั้น

3. เธอถูกเชื่อมโยงว่า เป็นผู้ช่วยในการเจรจาข้อตกลงการจัดซื้อเรือดำน้ำฝรั่งเศสให้กับรัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท)

เธออ้างว่าเป็นผู้แปลเอกสารและประสานงานในดีลนี้ จึงเรียกร้อง “ค่านายหน้า” มูลค่ากว่า 500,000 ดอลลาร์ จากนาย ราซัค ซึ่งภายหลังความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มเปราะบางและตึงเครียด จนทำให้เธอต้องถูกกำจัด?

🕊️ ระเบิด

4. ระหว่างกลางดึกคืนหนึ่ง เธอเดินทางไปที่บ้านนาย ราซัค ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อทวงเงินอีกครั้งแต่ครั้งนี้เธอได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย..

5. เมื่อครอบครัวของเธอในมองโกเลียทราบข่าวว่าเธอหายตัวไป พวกเขาเริ่มติดต่อสถานทูตและตำรวจมาเลเซียให้สอบสวนการหายตัวไปในทันที

6. สามสัปดาห์ต่อมา ศพของเธอถูกพบในป่าแห่งหนึ่งในรัฐเซอลาโงร์ ในสภาพที่ชิ้นส่วนร่างกายถูกระเบิดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ

7. ตำรวจได้ข้อสรุปว่าเธอถูกยิงสองนัด และร่างกายของเธอถูกระเบิดจนแหลก มีรายงานผลชันสูตรที่ชี้ว่าเธอถูกสังหารขณะกำลังตั้งครรภ์..

8. ความไม่ปกติของคดีนี้คือระเบิดที่ใช้เป็นระเบิดประเภท C-4 เป็นระเบิดที่สงวนให้ใช้แค่ในกองทัพ…

🕊️ ความจริงถูกเปิดเผยจริงหรือ?

9. โชคไม่เข้าข้างคนร้ายเสมอไป พยานในที่เกิดเหตุหลายคนระบุว่าเธอ “ถูกผลักขึ้นรถยนต์สีดำ” บริเวณหน้าบ้านของนาย ราซัค

10. หลักฐานในมือถือของอัลตันตูยาระบุว่าเธอได้โทรหาและส่งข้อความถึงนาย ราซัค หลายครั้งก่อนหายตัว

และพบหลักฐานอีกว่าเธอขู่นาย ราซัค ว่าจะ “เปิดเผยความลับ” หากไม่จ่ายเงินที่เธอสมควรได้จากดีลเรือดำน้ำ

11. ขณะกำลังสอบสวนนาย ราซัคยอมรับว่าได้เรียกตำรวจ เพื่อ “จัดการ” กับอัลตันตูยา เนื่องจากเธอคุกคามเขาและครอบครัวแต่ “ไม่ได้สั่งให้ฆ่า” เธอ

12. คำสารภาพของเขานำไปสู่การเปิดโปงตำรวจที่ถูกส่งไป “จัดการ” คือนายตำรวจ 2 นายจากหน่วย UTK (หน่วยปฏิบัติการพิเศษของมาเลเซีย) ซึ่งปกติทำหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญของรัฐบาล

13. C-4 เป็นวัตถุระเบิดที่สงวนเฉพาะหน่วยงานความมั่นคง จึงมีการตรวจสอบคลังอาวุธ และพบว่ามี C-4 ที่ถูกเบิกออกไปแบบผิดปกติในช่วงเวลาดังกล่าว นำไปสู่การจับผู้ต้องหา 2 ราย

ซีรุล (Sirul) ผู้ต้องหาคนแรกกล่าวว่า “เขาแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง” แต่ไม่เปิดเผยว่าใครเป็นคนสั่ง

ผู้ต้องหาอีกคนให้สัมภาษณ์จากในเรือนจำว่า เขาได้รับคำสั่งโดยตรงจาก “นายระดับสูง” ให้ “กำจัดภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ”

ทั้งสองคนเคยทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดของนาจิบ…

🕊️ ผลตัดสินที่แสนเศร้า

14. ผลตัดสินที่ออกมาคือศาล “ยกฟ้อง” นาย ราซัค โดยให้เหตุผลว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางแผนสังหาร

15. ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งสองคนถูก ต่อสู้ทางคดียาวนานกว่า 159 วันก่อนถูกศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสินของศาลชั้นต้น ยกเลิกคำตัดสินประหารชีวิต โดยให้เหตุผลว่า

ไม่มีหลักฐานตรงที่แสดงว่า ใครเป็นผู้สั่งให้สังหาร

ไม่มีพยานที่ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้งสองรู้จักกับอัลตันตูยามาก่อน

ไม่มีอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุถูกนำขึ้นแสดงต่อศาล

ศาลไม่ได้ปฏิเสธว่าทั้งสองคน น่าจะมีส่วนร่วม แต่ตามหลักกฎหมาย จำเป็นต้องมี หลักฐานที่ “เกินกว่าความสงสัยอันสมเหตุสมผล” (beyond reasonable doubt) ซึ่งอัยการไม่สามารถทำได้ครบถ้วน

16. หลังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในปี 2013 ผู้ต้องหาทั้งสองถูกปล่อยตัวชั่วคราว เพราะเขา “ไม่ใช่ผู้ต้องหาในขณะนั้น” ทำให้ซีรุลเดินทางหลบหนีไปยังออสเตรเลีย

17. แต่แล้วในปี 2015 ศาลสูงสุดของมาเลเซีย (Federal Court) กลับคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ และ ตัดสินประหารชีวิต ทั้งซีรุลและผู้ต้องหาอีกคน

ออสเตรเลียไม่ส่งตัวซีรุลกลับ เนื่องจากออสเตรเลียมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่ ห้ามส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากประเทศต้นทางมีโทษประหารชีวิต

ออสเตรเลียทำได้เพียงกักตัวเขาไว้ในศูนย์กักกันผู้ลี้ภัยในปี 2015 จนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม เขาสัญญาว่าจะเปิดเผยรายละเอียดของคดีนี้เพื่อแลกกับการอภัยโทษ

🕊️ บทส่งท้าย

18. สุดท้ายแล้วคดีนี้กลายเป็น รอยด่างทางการเมืองของมาเลเซีย โดยเฉพาะกับรัฐบาลภายใต้การนำของนาจิบ ราซัก

19. สุดท้ายแล้วเธอได้กลายเป็น “เสียงเงียบ” ที่ผู้คนได้แต่ตั้งคำถามกับความยุติธรรม ความโปร่งใส และอำนาจของการเมือง ว่าสุดท้ายแล้วความยุติธรรมสำหรับประชาชนทั่วไปนั้นอยู่ที่ใด…

#TWCHistory #TWCMongolia #TWCMalaysia #TWC_Salmon

อ้างอิง :

theedgemalaysia(ดอท)com/article/
apex-court%E2%80%99s-verdict-end-nine-year-altantuya-murder-saga?utm(ดอท)com

scmp(ดอท)com/week-asia/explained/article/3042437/
murder-altantuya-shaariibuu-and-allegations-against-malaysias