สุลต่านอิบราฮัม หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงเป็นกษัตริย์กัมพูชาสมัยอุดงมีชัย ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี 1641 – 1658 โดยพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์กัมพูชาพระองค์แรกและพระองค์เดียวที่หันมานับถือศาสนาอิสลาม

สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 เสด็จพระราชสมภพเมื่อปี 1614 ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 3 ในสมเด็จพระไชยเชษฐาที่ 2 ประสูติแต่นักนางบุษบา บาทบริจาริกาชาวลาว และทรงเป็นอนุชาของพระศรีธรรมราชาที่ 2 และพระองค์ทองราชา

เดิมพระองค์มีตำแหน่งเป็นเจ้าพระยาจันท์ พระอุปราชในรัชกาลสมเด็จพระองค์ทองราชา แต่เมื่อพระองค์ทองราชา ทรงเสด็จทิวงคตอย่างกระทันหัน พระอุไทย มหาอุปโยราช กลับใช้กำลังทหารบุกเข้าล้อมพระราชวัง และบังคับให้พระองค์จันท์มอบราชบัลลังก์ให้องค์โนน พระราชโอรสของพระอุไทย ซึ่งมีมารดาเป็นนักองค์วาที พระราชธิดาในสมเด็จพระไชยเชษฐาที่ 2

พระองค์จันท์จึงจำต้องมอบราชบัลลังก์ให้องค์โนน ให้ขึ้นครองราชบัลลังก์เป็น พระปทุมราชาที่ 1 โดยที่พระองค์เองก็ไม่พอพระทัยและเจ็บใจแค้น

พระองค์จันท์ได้วางแผนลอบปลงพระชนม์พระอุไทย โดยว่าจ้างทหารรับจ้างชาวจามและมาเลย์ไปลอบปลงพระชนม์พระอุไทยขณะประทับในพระราชวัง และจับกุมพระปทุมราชาที่ 1 ขณะเสด็จออกไปล่าสัตว์แล้วนำไปสำเร็จโทษที่ชายป่าเมืองอุดงมีชัย และขึ้นครองราชย์เป็น “สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1” เมื่อปี 1641

หลังจากครองราชย์ได้สองปี สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงได้รับอิทธิพลจากเหล่าพ่อค้าชาวมาเลย์ จึงหันไปนับถือศาสนาอิสลาม แล้วทรงเปลี่ยนพระนามเป็น “อิบราฮิม” และมีพระยศเป็น “สุลต่านแห่งกัมพูชา” พร้อมกับแต่งงานกับหญิงชาวมาเลย์ ซึ่งทำให้มีผู้ต่อต้านพระองค์มากขึ้น เพราะชาวกัมพูชาส่วนใหญ่นั้นนับถือศาสนาพุทธ และไม่ยอมรับศาสนาต่างชาติ

หากในรัชสมัยของพระองค์ กัมพูชาเจริญรุ่งเรืองจากการค้ากับต่างชาติ เมืองพนมเปญเป็นเมืองท่าที่พ่อค้าจากทั่วทิศแดนไกลเดินทางค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นมลายู, จาม, จีน, แขก, โปรตุเกส, และดัตช์ รวมไปถึงชาวคริสต์ญี่ปุ่นและชาวจีนที่ยังคงจงรักภักดีต่อราชวงศ์หมิงก็ได้เดินทางลี้ภัยมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของสุลต่านอิบราฮิม

นอกจากนี้ บริษัทดัตช์อีสต์อินเดีย บริษัทการค้าของดัตช์ที่มีฐานสำคัญที่ปัตตาเวีย (กรุงจาร์กาตาในปัจจุบัน)ยังมาตั้งสถานีการค้าที่พนมเปญ แต่เวลาต่อมา กลับขัดแย้งกับสุลต่านอิบราฮิมอย่างรุนแรง จึงทำให้เกิดสงครามกัมพูชา-ดัตช์ ในปี 1643 โดยสุลต่านอิบราฮัมสามารถทำสงครามชนะดัตช์และขับไล่พ่อค้าชาวดัตช์ออกไปจากกัมพูชา

แต่ต่อมาในปี 1658 นักองค์สูร โอรสของพระอุไทย และอนุชาต่างมารดาของพระปทุมราชาที่ 1 ซึ่งประสูติแต่นักนางโมม พระมารดาชาวเวียดนาม ได้นำกองทัพจากเวียดนามมาล้มล้างราชบัลลังก์ของสุลต่านอิบราฮิม ซึ่งได้รับการสนับสนุนนจากประชาชนชาวกัมพูชาที่ไม่พอใจสุลต่านอิบราฮิมที่หันไปพึ่งพิงพ่อค้าชาวมาเลย์และชาวจามมากเกินไป

นักองค์สูรและกองทัพเวียดนามจึงสามารถเอาชนะสุลต่านอิบราฮิมได้ ก็ได้ปราบดาภิเษกเป็น “สมเด็จพระบรมราชาที่ 8” และนำสุลต่านอิบราฮิมไปตังเกี๋ยแล้วคุมขังใส่กรง สุลต่านอิบราฮิมทรงได้รับความทุกข์โทมนัสอย่างแสนสาหัส จนพระวรกายไม่อาจทนได้และเสด็จสวรรคตในปี 1659 เป็นการปิดฉากสุลต่านแห่งกัมพูชาเพียงหนึ่งเดียวในหน้าประวัติศาสตร์อย่างน่าสลดใจ

คุณคิดว่า เหตุใดสุลต่านอิบราฮิมจึงโดนโค่นล้มราชบัลลังก์ และหากพระองค์สามารถปกครองกัมพูชาได้ต่อไป ประวัติศาสตร์ของกัมพูชาจะเป็นอย่างไร?

#TWCHistory #TWCCambodia #TWC_Rama