หลังจากข่าวกองกำลังชนกลุ่มน้อยเปิดฉากรุกต่อรัฐบาลทหารพม่าได้ในหลายพื้นที่ตั้งแต่ปลายปี 2023 จนถึงขณะนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีการคาดเดามากขึ้นว่าสุดท้ายฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าอาจจะชนะขึ้นมา และยุติความขัดแย้งภายในของพม่าที่ยืดเยื้อมากว่า 70 ปีลงได้
มาติดตามที่มาที่ไปและรายละเอียดต่างๆ ของความขัดแย้งภายในของพม่าในโพสต์นี้ครับ
_______________
🔴 *** ที่มา ***
พื้นที่ประเทศพม่าประกอบด้วยคนกว่า 130 ชาติพันธุ์ แต่พม่ายังปกครองแบบรัฐเดี่ยวที่มีการรวมศูนย์อำนาจ ซึ่งนี่ได้เป็นชนวนเหตุของความขัดแย้ง
เมื่อพม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษใหม่ๆ นั้น ในปี 1947 นายพล “อองซาน” ผู้นำกอบกู้เอกราชพม่า ได้เชิญแกนนำชนกลุ่มน้อยต่างๆ เซ็น “ความตกลงปางหลอง” มีเนื้อหาให้สิทธิปกครองตนเอง และสามารถเลือกได้ว่าจะรวมอยู่กับพม่าหรือแยกประเทศออกไป อย่างไรก็ตาม อองซานถูกลอบสังหารก่อนความตกลงนี้มีผล
หลังจากนั้นได้เกิดความขัดแย้งภายในพม่าขึ้นมาโดยตลอด เริ่มต้นจากการต่อสู้ระหว่างทางการกับพรรคคอมมิวนิสต์พม่า และการต่อสู้ระหว่างชาวพม่าซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศกับชนกลุ่มน้อยที่จับอาวุธขึ้นต่อสู้เพื่อเอกราช (จากเดิมที่ตอนแรกจะให้มีการลงประชามติ) …สิ่งที่เรามักได้ยินบ่อยๆ คือ ทหารพม่าจำเป็นต้องรวบอำนาจเบ็ดเสร็จมิฉะนั้นประเทศจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
_______________
🔴 *** สงครามยืดเยื้อ ***
ความขัดแย้งนี้ถูกยกระดับขึ้นหลังรัฐประหารปี 1962 นำโดยนายพล “เนวิน” ซึ่งเขาใช้ไม้แข็งในการต่อสู้กับชนกลุ่มน้อยต่างๆ ซึ่งตรงข้ามกับยุทธศาสตร์พัฒนาชนบทและให้โอกาสกลับใจของทางการไทยในการต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์ฯ
ลักษณะการต่อสู้จะเป็นสงครามกองโจร โดยกองกำลังชนกลุ่มน้อยมักยึดพื้นที่อยู่ในที่ทุรกันดารและพื้นที่ชายแดน และก่อเหตุลอบโจมตีทหารพม่าไปเรื่อยๆ ลักษณะจะคล้ายๆ กับความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งทางการพม่าจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนๆ ประกอบด้วยโซนที่รัฐบาลคุมได้สมบูรณ์ โซนที่คุมได้บางส่วน และโซนที่คุมไม่ได้เลย
ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อนี้ยังมีต่างชาติยื่นมือเข้าแทรกแซง เช่น ทางการจีนให้การสนับสนุน “รัฐว้า” ตรงชายแดนรัฐฉานกับจีนให้ดูแลผลประโยชน์โดยเฉพาะการส่งทรัพยากร หรือทางการไทยที่เคยสนับสนุนกองกำลังกะเหรี่ยง KNU หรือกองกำลังรัฐฉานใต้ให้เป็นแนวกันชนของไทย (ต่อมารัฐบาลไทยหันไปจับมือกับรัฐบาลทหารพม่าแทน)
นอกจากนี้ยังมีปัญหายาเสพติดโดยเฉพาะรัฐฉาน ซึ่งกองกำลังชนกลุ่มน้อยปลูกขายเพื่อนำเงินมาซื้ออาวุธ และชนกลุ่มน้อยที่หนีการสู้รบไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะไทยและอินเดีย
รัฐบาลทหารพม่าหลายยุคยังพยายามปราบปรามฝ่ายประชาธิปไตยพม่า โดยเน้นเล่นงาน “อองซานซูจี” ที่จริงๆ ก็ชนะการเลือกตั้งตลอด ฝ่ายประชาชนพม่าเองก็ลุกขึ้นสู้กับทหารพม่าหลายครั้ง ครั้งใหญ่สุดคือ “การลุกฮือ 8888” (ปี 1988) แต่ก็ถูกทางการปราบปรามอย่างหนัก
สถานการณ์ดีขึ้นบ้างในยุคการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยสั้นๆ โดยมีการเซ็นข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพรรค NLD ของอองซานซูจีขณะนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรมากเพื่อสิทธิชนกลุ่มน้อย เพราะฐานเสียงส่วนใหญ่ของเธอคือชาวพม่านั่นเอง
_______________
🔴 *** รัฐประหารปี 2021 จนถึงปัจจุบัน ***
ความขัดแย้งนี้กลับมาปะทุอีกครั้งหลังรัฐประหารปี 2021 แต่ที่น่าสังเกตคือหลังจากนั้นเป็นครั้งแรกที่ประชาชนชาวพม่ามีการจัดตั้งกองกำลังของตัวเองขึ้นชื่อว่า “PDF” แบบเดียวกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่อยู่มาหลายสิบปีแล้ว PDF ให้การสนับสนุนรัฐบาลพลัดถิ่นของอองซานซูจี แต่ไม่ใช่ชนกลุ่มน้อยทั้งหมดที่สนับสนุนรัฐบาลของเธอ
ในช่วงปลายปี 2023 กองกำลังชาติพันธุ์ 3 กลุ่มในรัฐฉานได้เปิดฉาก “ปฏิบัติการ 1027” และสามารถตีชิงพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งพฤติการณ์บ่งชี้ว่าจีนซึ่งคอยเป็นคนห้ามชนกลุ่มน้อยกับทางการพม่าไม่ให้รบกันใกล้ๆ ชายแดนจีนในรอบนี้กลับปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะรัฐบาลพม่าไม่ทำตามข้อเรียกร้องของทางการจีนโดยเฉพาะในการปราบปรามอาชญากรรมที่มีคนจีนตกเป็นเหยื่อ
หลังจากเห็นความสำเร็จของปฏิบัติการดังกล่าว ทำให้ชนกลุ่มน้อยอื่นๆ สบโอกาสเริ่มบุกฝ่ายทหารพม่าบ้าง ทำให้ยุทธศาสตร์แบบหยุดยิงแนวรบหนึ่งเพื่อนำกำลังไปสู้รบในอีกแนวรบหนึ่งของทหารพม่าใช้ไม่ได้ผลอีกแล้ว
นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่ากองทัพพม่าจริงๆ แล้วอาจอ่อนแอกว่าที่คิด เพราะที่ผ่านมาเวลาวิเคราะห์มักนำตัวเลขทหารทางการ 4 แสนคนไปใช้ ทั้งที่ความจริงกองทัพพม่าประสบปัญหาขาดแคลนกำลังพลอย่างหนัก โดยเฉพาะเมื่อประชาชนชาวพม่าเองไม่เอาด้วยกับทหารอีกแล้ว จนอาจเหลือกำลังรบราว 7 หมื่นเท่านั้น!
ล่าสุดมีการประเมินว่ากองทัพพม่าอาจเหลือพื้นที่ควบคุมเพียง 17% ของประเทศแล้ว และมีข่าวทางการพม่าสั่งเกณฑ์ทหารเป็นครั้งแรก (หลังจากก่อนหน้านี้ใช้ระบบสมัครใจมาตลอด) จนทำให้มีภาพประชาชนไม่น้อยพยายามหนีออกนอกประเทศ
_______________
🔴 *** อนาคตของพม่า ***
สงครามครั้งนี้จะจบลงอย่างไร? ถึงแม้ว่ากองทัพพม่าจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำมาก แต่ก็ยังมีแสนยานุภาพที่อาจลากสงครามไปยืดเยื้อได้ และยังเป็นไปได้ว่าฝ่ายต่อต้านอาจปิดเกมไม่ลง กลายเป็นสงครามยาวๆ แม้รัฐบาลทหารพม่าจะเริ่มแสดงท่าทีว่าพร้อมเข้าสู่การเจรจาแล้ว แต่เชื่อว่าชนกลุ่มน้อยต่างๆ ไม่น่าจะยอมแน่นอน คือต้องการจะเอานายทหารระดับสูงมาลงโทษให้ได้
หรือหากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลชนะ เหตุการณ์ที่น่าจะเป็นไปได้ก็ยังแบ่งออกได้เป็น 2 scenario หลักๆ นั่นคือ 1) เกิดเป็นสหพันธรัฐหรือสมาพันธรัฐ หรือ 2) แตกออกเป็นรัฐต่างๆ แบบยูโกสลาเวีย โดยก่อนหน้านี้มีชนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่งประกาศตั้งเป็น “ชีนแลนด์” (Chinland) มีเป้าหมายจะรวมเป็นรัฐสหพันธ์กับพม่าหลังจากยุคสงครามกลางเมืองนี้
จนถึงขณะนี้การพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของพม่าหลังสงครามกลางเมืองยังคงมีน้อย นั่นทำให้ยังไม่สามารถเห็นมุมมองทั้งหมดว่ามีการตีความออกมาทางใดได้บ้าง …สถานการณ์ในรอบนี้นับว่าไม่เหมือนกับที่เคยขึ้นมากว่า 70 ปี จำเป็นต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด!
#TWCSummary #TWCMyanmar
0 Comment