แรงศรัทธาหรือมนุษย์ต่างดาว!? – ไกรลาศมนเทียรแห่งถ้ำเอลโลรา

…“จุดสูงสุด” ของยุคเจาะหินแห่งสถาปัตยกรรมอินเดียอยู่ที่นี่…
…“เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว” อยู่ที่นี่…
…ที่นี่คือ “ไกรลาศมนเทียร” ถ้ำหินแกะสลักหินเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก! …

ไกรลาศมนเทียรเป็นถ้ำหินแกะสลักหมายเลข 16 และเป็นส่วนหนึ่งของ “หมู่ถ้ำเอลโลรา” ในเขตออรังกาบัด รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย ซึ่งเอกลักษณ์สำคัญของที่นี่คือการสร้างด้วย “การเจาะเข้าไปในหินยักษ์ก้อนเดียว” หรือภูเขาหินนั่นแหละ

โดยที่นี่มีความสูงมากกว่า 30 เมตร รวมถึงภายในถ้ำยังมีงานแกะสลักเล่าเรื่องราวฮินดูอย่างละเอียด ซึ่งมีลวดลายสุดวิจิตรงดงามมากมาย อีกทั้งยังเป็นการสร้างจาก “ข้างบนลงข้างล่าง” โดยใช้อุปกรณ์เพียงแค่ “ค้อนและสิ่ว” เท่านั้น

โดยนักวิชาการสันนิษฐานว่าถ้ำนี้สร้างขึ้นในสมัยของพระกฤษณะที่ 1 แห่งจักรวรรดิราชตระกุฏ ( คริสต์ศตวรรษที่ 8 ) ส่งผลให้ที่นี่เปรียบเสมือนภาพสะท้อนความอัจฉริยะของเหล่าช่างฝีมือในสมัยอินเดียโบราณและแรงศรัทธาทางความเชื่ออันแข็งแกร่งของพวกเขาได้อย่างชัดเจน จนได้รับการขนานนามว่า “จุดสูงสุด” ของยุคเจาะหินแห่งสถาปัตยกรรมอินเดีย

…อย่างไรก็ดี ความยิ่งใหญ่ของไกรลาศมนเทียรนำไปสู่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า “มนุษย์ต่างดาวเป็นผู้สร้างสถาปัตกรรมนี้ขึ้นมา!”…

ทฤษฎีหลายอย่างพยายามชี้ว่ามนุษย์ไม่มีทางสร้างที่นี่ขึ้นได้อย่างแน่นอน เนื่องจากสมัยของพระกฤษณะที่ 1 มีช่วงเวลาแค่ 18 ปีเท่านั้น ดังนั้นการสร้างที่นี่ภายในเวลาดังกล่าว จำเป็นต้องใช้คนงานมากถึง 7,000 คน ทำงานวันละ 12 ชั่วโมงแบบไม่หยุดพัก อีกทั้งยังต้องกำจัดหินจากการแกะสลักราว 400,000 ตัน ด้วยอัตราค่าเฉลี่ย 5 ตันต่อชั่วโมง รวมถึงหินเหล่านั้นยังหายไปอย่างปริศนา และไม่พบเจอเศษซากเลยในระยะรอบรัศมี 100 กิโลเมตร!

…ซึ่งทั้งหมดนี้คือการทำแบบไม่รวมวางแผนและแกะสลัก ซึ่งคนงานเหล่านั้นจะทำทุกอย่างเหล่านั้นด้วยการใช้เพียงค้อน สิ่ว และจอบได้อย่างไร? ….

ไม่เพียงแค่นั้น ถ้ำแห่งนี้ยังมีการหันทิศทางอย่างถูกต้องและมีขนาดที่สมมาตร ทั้งที่ยุคนั้นยังไม่มีเข็มทิศด้วยซ้ำ รวมถึงยังมีการพบเจอช่องทางลับลึกกว่า 50 ฟุต แต่ทางเข้ากลับเล็กเกินกว่ามนุษย์จะเข้าไปได้ แล้วมนุษย์สร้างทางเหล่านั้นได้อย่างไร สร้างมันไปเพื่ออะไร!?

นอกจากนี้ในปี 1682 จักรพรรดิออรังเซฟยังได้ส่งคนมาถึง 1,000 คนมาทำลายที่นี่ยาวนานถึง 3 ปี แต่คนงานก็ไม่สามารถทำลายได้ และทำได้เพียงบิดเบือนรูปแกะสลักบางส่วนเท่านั้น จนจักรพรรดิออรังเซฟต้องยกธงขาวยอมแพ้โครงการนี้ไป

…ขนาดมนุษย์ยุคหลังยังทำลายไม่ได้ แล้วมนุษย์โบราณจะเป็นผู้สร้างสิ่งนี้ได้ยังไง? …

…ทุกคำถามเหล่านั้นเป็นปริศนาที่ยากเกินกว่าจะหาคำตอบ ที่แห่งนี้คือความอัจฉริยะของช่างอินเดียโบราณ หรือมนุษย์ต่างดาวจะเป็นผู้สร้างสิ่งมหัศจรรย์นี้ขึ้นจริงหรือ? อย่างไรก็ดี เรามีข้อมูลทางประวัติศาสตร์จากนักโบราณคดีมาให้นำไปวิเคราะห์พิจารณากันครับ…

นักวิชาการบางคนวิเคราะห์ว่า การก่อสร้างถ้ำแห่งนี้ครอบคลุมรัชสมัยของกษัตริย์หลายพระองค์ เนื่องจากไกรลาศมนเทียรมีลักษณะเด่นทางสถาปัตยกรรมและประติมากรรมหลายรูปแบบ และเมื่อรวมกับขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า “ส่วนหลักของที่นี่” สร้างเสร็จในสมัยของพระกฤษณะที่ 1 จากนั้นก็มีการสร้างเรื่อยมาจนเป็นดังที่เห็นในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมีอีกหลักฐานสำคัญคือ “อิทธิพลของปัลลวะ-จาลุกยะ” เพราะไกรลาศมนเทียรมีความคล้ายคลึงกับ “วิหารวิรุปักษา” ที่ปัตตาดากัล (ซึ่งสร้างจำลองวิหารไกรลาศของที่อื่นมาอีกที)

จึงมีข้อสันนิษฐานว่าหลังพระกฤษณะที่ 1 เอาชนะจักรวรรดิจาลุกยะได้สำเร็จ พระองค์ก็ถูกใจวิหารวิรุปักษา ส่งผลให้นำช่างแกะสลักและสถาปนิกของที่นั่นมายังดินแดนของตนเองด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างสถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่แห่งนี้

…ดังนั้นเมื่อมองผ่านข้อสันนิษฐานที่ว่าช่างฝีมือเหล่านั้นเป็นผู้สร้างไกรลาศมนเทียร ทำให้การก่อสร้างที่นี่ภายใน 18 ปี “มันย่อมเป็นไปได้” เนื่องจากพวกเขามีแบบแปลนอยู่แล้ว…

รวมถึงการแกะสลักหินก้อนเดียวก็อาจประหยัดเวลาขนหินมาสร้างเสียด้วยซ้ำ โดยนักวิชาการคาดการณ์ว่าหากคนงาน 1 คนสามารถตัดหินได้ 4 ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ที่นี่จะใช้เวลาสร้างเพียง 6 ปีด้วยคนงานเพียง 250 คน อีกทั้งสถาปัตยกรรมแปลกๆ ที่ไม่ใช่แบบราชตระกุฏ มันอาจเป็นผลงานอิทธิพลของปัลลวะ-จาลุกยะได้ด้วยเช่นกัน

…สุดท้ายนี้แม้ว่าความจริงภายใต้ปริศนาอันซับซ้อนนี้จะเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านั้นย่อมไม่สามารถปฏิเสธ “ความมหัศจรรย์” ของไกรลาศมนเทียรได้อย่างแน่นอน เพราะที่นี่คือถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอลโลรา และยังเป็นถ้ำหินแกะสลักหินเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนได้รับตำแหน่งมรดกโลกจาก UNESCO อีกด้วย…

:::: :::: :::: ::::
อันนี้ช่วงขายของ! ตอนนี้เรามี “ทัวร์อินเดีย : เทศกาลคเณศจตุรถี” ที่จะพาท่านไปท่านไปเทศกาลมงคลครั้งเดียวในรอบปี อีกทั้งท่านจะได้ไปชมสถานที่ Unseen ของอินเดีย ทั้งถ้ำเอลโลร่า ถ้ำอชันตา ซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา และความสวยงามอันวิจิตรของศิลปะ รวมถึงท่านจะได้รับ “ความรู้ทางประวัติศาสตร์” แบบถึงแก่น เพื่อเข้าใจ “ความเป็นอินเดีย” มากยิ่งขึ้น

หากท่านใดสนใจขอโปรแกรม สามารถติดต่อได้ทาง inbox หรือแอด LINE OA ได้ที่ @thewildchronicles (พิมพ์ @ ด้านหน้า) หรือกดลิงก์ได้ที่คอมเมนท์ และพิมพ์ว่า “สนใจทัวร์คเณศจตุรถี” ได้เลยนะครับ