เดนมาร์ก “เตรียมเรียกทูตสหรัฐฯ เข้าพบ” หลังสหรัฐฯ ถูกกล่าวหาว่า พยายามจารกรรมข้อมูลในกรีนแลนด์

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2568 รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเดนมาร์ก ลาร์ส เลิกเกอ รัสมุสเซิน (Lars Lokke Rasmussen) เตรียมเรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับรายงานที่น่ากังวลว่า สหรัฐฯ อาจทำการจารกรรมข้อมูลในกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองภายใต้ราชอาณาจักรเดนมาร์ก ความกังวลนี้ทวีขึ้นหลังจากเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล (The Wall Street Journal) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ (NSA) ได้รับคำสั่งให้เพิ่มความพยายามในการรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับกรีนแลนด์อย่างเข้มข้น

รายงานระบุว่า เป้าหมายของการรวบรวมข่าวกรองนี้มุ่งเน้นไปที่ขบวนการเรียกร้องเอกราชของกรีนแลนด์, ความคิดเห็นเกี่ยวกับการแสวงหาทรัพยากรในเกาะโดยสหรัฐฯ และการระบุบุคคลในกรีนแลนด์และเดนมาร์กที่อาจสนับสนุนเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในภูมิภาคอาร์กติก นอกจากนี้ ยังมีข้อสงสัยว่า NSA อาจใช้สายเคเบิลใต้ทะเลเพื่อสอดแนมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเดนมาร์กและประเทศอื่นๆ ในยุโรปด้วย

รัฐมนตรีต่างประเทศของเดนมาร์ก ได้ออกมาแสดงความกังวลอย่างชัดเจน โดยกล่าวว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับข้อกล่าวหาเหล่านี้อย่างจริงจังและต้องการทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด เขาย้ำว่า “เพื่อนไม่ควรสอดแนมกันเอง” และถือเป็นเรื่องที่ “น่ากังวล” หากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิด กำลังดำเนินการรวบรวมข่าวกรองในลักษณะนี้ในเดนมาร์กและกรีนแลนด์

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และเดนมาร์กเคยตึงเครียดมาแล้วก่อนหน้านี้ จากกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เคยแสดงความสนใจที่จะซื้อกรีนแลนด์หลายครั้งในปี 2019 ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวถูกปฏิเสธอย่างหนักแน่นจากทั้งเดนมาร์กและกรีนแลนด์เอง

นอกจากนี้ รายงานข่าวยังระบุว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ อาจใช้วิธีการที่หลากหลายในการรวบรวมข้อมูล รวมถึงการใช้ข่าวกรองจากตัวบุคคล, การดักฟังการสื่อสาร และการใช้ดาวเทียมสอดแนม

หน่วยข่าวกรองภายในประเทศของเดนมาร์ก (PET) เองก็ตระหนักถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น โดยได้ออกแถลงการณ์ว่า “มีการยกระดับภัยคุกคามจากการจารกรรมและอิทธิพลจากต่างชาติ ทั้งต่อเดนมาร์กและกรีนแลนด์” ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ภูมิภาคอาร์กติกเริ่มได้รับความสนใจจากนานาชาติมากขึ้น ในช่วงทศวรรษที่ผ่าน

#TWCNEWS #TWCUSA #TWCDenmark #TWC_Salmon