หุบเขากระทิงแดง หรือ หุบเขาวัวแดง ไม่ใช่หุบเขาที่ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดังแต่อย่างใด แต่ที่นี่คือหุบเขาที่มีลักษณะอันน่าทึ่งจนถูกขนานนามว่า “หุบเขากระทิงสีแดง” นั่นเองงงง

หุบเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้เมืองคาราโคล แถวทะเลสาบอิสซิค-คุล ประเทศคีร์กีซสถาน เป็นหุบเขาที่ทอดยาว 37 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 2,200 เมตร มีทัศนียภาพหุบเขาที่น่าสนใจ เนื่องจากสันเขาที่ตั้งเรียงกันอยู่นั้นมีรูปร่างคล้ายวัว 7 ตัวที่กำลังยืนเล็มหญ้ากินอย่างสบายใจ อีกทั้งยังมีหุบเขาสีแดงโดดเด่นแตกต่างจากหุบเขาทั่วไป ยิ่งในวันที่มีแดดออกจ้า หุบเขาแห่งนี้จะยิ่งสวยงามเจิดจรัสกว่าหุบเขาอื่นๆ เป็นสิบเท่าเลยล่ะ

หุบเขากระทิงแดง หรือ หุบเขาวัวแดงแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า หุบเขาเจตี โอกุซ คำว่า เจตี-โอกุซ มาจากภาษาคีร์กีซ แปลว่า ‘หุบเขาวัว 7 ตัว’ ซึ่งมีที่มาจากตำนานนิทานพื้นบ้านอันโด่งดังของคีร์กีซสถาน..ย้อนกลับไปในอดีต มีชาวคีร์กีซโบราณท่านหนึ่งเคยเล่าเอาไว้ว่า มีกษัตริย์ข่านผู้มั่งคั่งสองคนอาศัยอยู่ที่หุบเขาแห่งนี้ กษัตริย์คนที่หนึ่งดันไปตกหลุมรักหญิงสาวของกษัตริย์คนที่สอง เขาจึงไปลักพาตัวหญิงสาวมาเป็นของตนเอง จากนั้นกษัตริย์คนที่สอง ผู้เป็นสามีของหญิงสาวก็โกรธแค้นมากที่มาลักพักตัวสาวของเขาไป

ความโกรธแค้นได้ปะทุขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นเกิดเป็นสงครามระหว่างสองฝ่าย

สงครามความรักนี้ดำเนินไปอย่างดุเดือดและยาวนานแบบไม่มีใครยอมใคร จนกษัตริย์คนที่หนึ่งผู้ที่ลักพาตัวหญิงสาว ดันเหนื่อยกับสงครามเต็มที จึงยื่นคำขาดไปว่า ‘ถ้าไม่หยุดตีกับข้า ข้าจะฆ่าภรรยาเจ้าแล้วส่งร่างที่ไม่มีชีวิตกลับไปให้เจ้าแทน’ ซึ่งการพูดไปแบบนี้เพียงหวังให้อีกฝ่ายเกิดตกใจและห่วงหญิงสาวขึ้นมาและจะได้เลิกมาตีกัน แต่ที่ไหนได้…อีกฝ่ายกลับไม่สนใจใยดีหญิงสาว และมุ่งหน้าทำสงครามต่อไปอย่างมุ่งมั่น

จากนั้นกษัตริย์คนที่หนึ่งผู้ลักพาตัวหญิงสาวก็เลยยอมไม่ได้ เลยจัดงานเลี้ยงในหุบเขาขึ้นมา และนำวัว 7 ตัวมาเป็นเครื่องสังเวยในงานเลี้ยงฉลอง ทันทีทันใดที่วัวตัวที่เจ็ดถูกเชือด กษัตริย์ผู้ลักพาตัวก็ได้แทงมีดเข้าไปในอกหญิงสาว เพื่อส่งสารต่อกษัตริย์คนที่สองว่าได้ฆ่าเรียบร้อยแล้ว นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมที่นี่ถึงชื่อว่าหุบเขาเจตี โอกุซ ที่มีความหมายว่าวัว 7 ตัว

โดยหลังจากที่กษัตริย์แทงหญิงสาว เลือดของเธอก็ไหลนองเต็มไปทั่วพื้น แต่ที่น่าตกใจคือเลือดของเธอดันไหลออกมาเป็นพิษ และสร้างความเจ็บปวดให้แก่ผู้คนที่อยู่ในงานทุกคนจนถึงแก่ชีวิต… ท้ายที่สุดหัวใจของหญิงสาวและร่างของวัวทั้ง 7 ก็กลายเป็นหินรูปร่างวัวที่มีสีแดงที่มาจากเลือด ส่วนทางด้านขวาของหุบเขาก็เกิดเป็นเขาลูกหนึ่งที่มีลักษณะคล้าย “หัวใจที่แตกสลาย” ในตำนานกล่าวว่าเขาลูกนั้นนั้นคือหัวใจของหญิงสาวที่เจ็บปวดจากความรักครั้งนี้จนหัวใจหักครึ่งเป็นสองส่วน

ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ก็เป็นเพียงตำนานที่น่าตราตรึงของหุบเขาแห่งนี้ แท้จริงแล้วหุบเขานี้มีลักษณะที่เหมือนวัวทั้ง 7 ตัว ก็มาจากการที่หุบเขาโดนกัดเซาะจากลม ฝน มาตามกาลเวลาเป็นล้านๆ ปี ส่วนสีแดงของหุบเขาก็มาจากที่มีหินทรายสีแดงปะปนอยู่ในดินเป็นจำนวนมาก

โดยการที่มีลักษณะทัศนียภาพสุดพิเศษ จึงทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันแบบเช้าเย็นกลับ ทัศนียภาพรอบข้างทำให้รู้สึกเหมือนโดนวัวยักษ์ล้อมรอบ พร้อมทั้งหุบเขาสีแดงล้วนที่ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยปัง ไม่เหมือนใคร ขอบอกว่าหากใครได้ไปที่คีร์กีซสถาน ต้องห้ามพลาดหุบเขาวัวแดงแห่งนี้เลยน้าาาา