เคอร์ดิสถาน เป็นประเทศที่ไม่มีเขตแดนแน่ชัดบนโลก ตั้งอยู่ระหว่างประเทศอิรัก อิหร่าน ตุรกี และซีเรีย เลยทำให้ประเทศนี้เป็นประเทศที่ไม่มีอยู่จริงบนโลก หนำซ้ำยังเป็นดินแดนที่โดนปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม โดนขัดขวางกดขี่เรื่องสิทธิการปกครองตนเองมาเป็นระยะเวลายาวนาน อีกทั้งในสายตาของชาวโลก ดินแดนแห่งนี้ยังดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความอันตราย ความขัดแย้ง

แต่ทุกท่านทราบหรือไม่…ว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเสียงของคนในประเทศที่จะแก้ต่างนั้นส่งไปไม่ถึงคนอื่นๆ บนโลก

ถึงอย่างไรวันที่ฟ้ามืด ก็ยังคงมีแสงสว่าง เพราะมีกลุ่มสุภาพบุรุษกลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันขึ้นมาในนาม “มิสเตอร์เออร์บิล” ลักษณะกลุ่มคล้ายกับสโมสรสุภาพบุรุษ โดยผู้ก่อตั้งกลุ่มเริ่มเล็งเห็นถึงปัญหาในสังคมที่เกิดขึ้นในเคอร์ดิสถาน เช่น ปัญหาการกดขี่สิทธิสตรีในประเทศ ปัญหาภาพลักษณ์ของประเทศที่ไม่สงบสุข หรือแม้แต่เรื่องปัญหาเศรษฐกิจของประเทศหลังจากโดนคว่ำบาตรจากองค์การสหประชาชาติและจากอดีตประธานาธิบดีอิรักอย่าง ซัดดัม ฮุสเซน ที่แอนตี้ชาวเคิร์ดยิ่งนัก

เริ่มแรกผู้ก่อตั้งกลุ่มมีทั้งหมดสามคน ได้แก่ โอเมอร์ นิฮัด, โกรัน ปชติวัน, อาเหม็ด เนาเซด พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบในแฟชั่นมาก จะเรียกว่าหนุ่มเทสดีเลยก็ว่าได้ พวกเขามีการเริ่มออกแบบการแต่งตัวแบบอังกฤษผสมแบบชาวเคิร์ดดั้งเดิม ลักษณะเครื่องแต่งกายก็จะมีสีสันแนวเอิร์ธโทน เช่น สีน้ำตาล สีขาว สีครีม และสีเขียว ลวดลายเสื้อผ้าจะออกแนวเรียบๆ ไม่มีงานปักอะไร ส่วนบางคนก็จะใส่ผ้าโพกหัว และสวมเสื้อเชิ้ตไว้ข้างในตามด้วยสวมเสื้อทับไว้ข้างนอก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสูตรการแต่งกายตามฉบับชาวเคิร์ดดั้งเดิม ส่วนการแต่งกายแบบตะวันตกที่เอามาผสมผสาน คือ มีการใช้เสื้อทับข้างนอกเป็นเสื้อสูทแทนที่การใช้เสื้อกั๊กหรือเสื้อแจ็กเก็ตแบบชาวเคิร์ดดั้งเดิม มีการผูกเนกไทตามวัฒนธรรมตะวันตก ซึ่งการแต่งตัวเช่นนี้กำลังจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เคอร์ดิสถานไม่น้อยเลย

เริ่มแรกของการตั้งกลุ่ม มิสเตอร์เออร์บิล ได้มีการจัดสไตล์การแต่งตัวตามแนวดังกล่าวเพื่อไปถ่ายรูปตามสถานที่สำคัญต่างๆ ในเคอร์ดิสถานและนำลงไปลงในสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อแสดงให้เห็นว่าเคอร์ดิสถานก็มีความทันสมัย อีกทั้งยังมีการแต่งกายฟีลสุภาพบุรุษเพื่อรวมกลุ่มไปนั่งพูดคุยประเด็นปัญหาต่างๆ ตามร้านน้ำชา ซึ่งเป็นวัฒนธรรมตามปกติของผู้ชายชาวเคิร์ดที่จะมาพูดคุยสังสรรค์กันตามร้านน้ำชาในเมือง

เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง สื่อโซเชียลมีเดียของ มิสเตอร์เออร์บิล เริ่มโด่งดังและมีผู้ติดตามมากขึ้น และมีบริษัทตะวันตกติดต่อเข้ามาเพื่อขอร่วมงานทางด้านแฟชั่น รวมไปถึงขอสั่งซื้อเสื้อผ้าที่กลุ่มมิสเตอร์เออร์บิลผลิตขึ้นมา

โดยหลังจากที่พวกเขาเริ่มมีชื่อเสียง ก็ได้เริ่มคิดค้นแคมเปญรณรงค์ขึ้นมา ซึ่งเป้าหมายหลักๆ แอดมินจะขอแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.รณรงค์สิทธิสตรี 2.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเคอร์ดิสถาน 3.ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเคอร์ดิสถาน

***มิสเตอร์เออร์บิล กลุ่มคนที่มุ่งหวังการเปลี่ยนแปลงปัญหาการกดขี่สตรีในเคอร์ดิสถาน***

หนึ่งในปัญหาที่สำคัญของเคอร์ดิสถาน คือ ‘การกดขี่สิทธิสตรี’ ผู้หญิงชาวเคิร์ดในเคอร์ดิสถานมักไม่ได้รับการศึกษาเท่าที่ควร ส่วนใหญ่เรียนจบเพียงแค่ชั้นประถมเท่านั้น อย่างแย่ที่สุด คือ ไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษาเลย การใช้ชีวิตก็ถูกกดขี่ เช่น ถูกบังคับแต่งงาน บางคนไม่มีโอกาสได้ทำงาน อีกทั้งยังมีปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่มีต้นเหตุมาจากสังคมปิตาธิปไตย (ชายเป็นใหญ่) กลุ่มมิสเตอร์เออร์บิล จึงเริ่มเคลื่อนไหวการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ เช่น มีการใช้ช่องทางอินสตราแกรมทำแคมเปญ ‘Girl Inspiration’ โพสต์เกี่ยวกับผู้หญิงชาวเคิร์ดและทั่วโลกที่เป็นผู้หญิงต้นแบบและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลก เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าผู้หญิงนั้นมีคุณค่าและความสำคัญ โดยการโพสต์จะทำในทุกๆ สัปดาห์

***มิสเตอร์เออร์บิล กลุ่มคนที่มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในเคอร์ดิสถาน***

แฟชั่นเสื้อผ้าต่างๆ ที่กลุ่มมิสเตอร์เออร์บิล ใช้ ทั้งหมดถูกผลิตโดยฝืมือช่างตัดเสื้อในถ้องถิ่น และใช้ผ้าในท้องถิ่น อย่างผ้าที่ทำจากขนแกะของท้องถิ่น นับว่าเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ผู้คน ยิ่งในช่วงหลังที่ มิสเตอร์เออร์บิล เริ่มโด่งดังจากการที่มีฝั่งตะวันตกเป็นลูกค้าสั่งเสื้อผ้า สั่งเนคไทต์ ก็ยิ่งทำให้คนในท้องถิ่นมีงาน มีรายได้มากขึ้นไปอีก

***มิสเตอร์เออร์บิล กลุ่มคนที่พยายามปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเคอร์ดิสถาน***

จากที่เราทราบกันดีว่า ประเทศในตะวันออกกลางดูอันตราย ซึ่งเคอร์ดิสถานก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ผู้คนมองว่ามันดูอันตราย แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้นเลย เคอร์ดิสถานเป็นภูมิภาคที่ค่อนข้างปลอดภัยจากเหตุการณ์ความไม่สงบในระดับหนึ่ง ผู้คนก็เป็นมิตร ซึ่งกลุ่มมิสเตอร์เออร์บิล ก็อยากให้คนมองเคอร์ดิสถานเป็นเช่นนั้น จึงใช้ภาพลักษณ์ความทันสมัย ความสากล ความสงบสุขของบ้านเกิด ให้ประชาคมโลกได้เห็น ผ่านการเคลื่อนไหวโดยใช้สื่อโซเชียลเป็นตัวผลักดัน ใช้การแต่งตัวทันสมัยแบบตะวันตกผสมเคิร์ดดั้งเดิม ไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ที่สำคัญของประเทศ และโพสต์ลงสื่อโซเซียล เพื่อดึงดูดความสนใจให้ผู้คนได้รับรู้ว่าความจริงแล้วเคอร์ดิสถานมีอะไรที่น่าสนใจไม่แพ้ที่อื่นนั่นเองค่ะ

และเมื่อปี 2023เดือนมีนาคมที่ผ่านมา มิสเตอร์เออร์บิล ก็ได้ปิดตัวกลุ่มสโมสรและแบรนด์เสื้อผ้าลง เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงินด้านต้นทุนในการดำเนินงานต่างๆ ของกลุ่มและแบรนด์ แต่ถึงอย่างไรก็ถือว่ามิสเตอร์เออร์บิลได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เคอร์ดิสถานอย่างมาก ทำให้คนเห็นว่าเคอร์ดิสถานนั้นมีตัวตน ซึ่งเป็นการปูทางให้แก่คนรุ่นต่อไปได้อย่างดี โดยทาง มิสเตอร์เออร์บิล เองก็ได้กล่าวทิ้งท้ายผ่านช่องทางโซเชียลเอาไว้ว่า “พวกเขาหวังว่าสิ่งที่พวกเขาทำที่ผ่านมาจะช่วยให้ประเทศของพวกเขาไปได้ไกลกว่าเดิม รวมถึงสามารถสร้างแรงบัลดาลใจให้ผู้คนในระดับนานาชาติได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”