ทัชมาฮาล ชื่อสถานที่อันเป็นที่รู้จักกันดีในระดับโลก ตั้งอยู่ในเมืองอัครา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย สิ่งก่อสร้างนี้ไม่ใช่วัด หรืออนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์แต่อย่างใด แต่ที่นี่คือสุสานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวของความรักนั่นเอง
 
ทัชมาฮาลแห่งนี้ถูกเล่าขานกันว่า ชาห์ จะฮัน จักรพรรดิองค์ที่ 5 ของจักวรรดิโมกุลสร้างขึ้นเพื่อไว้รำลึกถึงภรรยาที่จากไป โดยทุ่มเงินสร้างแบบสุดตัวไปประมาณ 13 ล้านบาท (หลายคนกล่าวว่าเงินจำนวนนี้ในอดีตคือเงินเกือบทั้งหมดของจักรวรรดิโมกุลเลย) ซึ่งปัจจุบันที่นี่มีมูลค่าเทียบเท่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
 
โดยการก่อสร้างครั้งนี้ จักรพรรดิชาห์ชะฮันได้รวบรวมช่างฝีมือดีจากทั่วโลกกว่า 20,000 คน มาก่อสร้างที่นี่ ใช้เวลารวมทั้งสิ้นถึง 22 ปี
 
หลายคนคงสงสัยว่าจักรพรรดินีองค์นี้ของชาห์ชะฮันนั้นมีความสำคัญต่อเขาขนาดไหน จนถึงยอมทุ่มเงินเกือบทั้งหมดของจักรพรรดิตนเองเพื่อสร้างอนุสรณ์เอาไว้แค่เพียงรำลึกถึงคนที่จากไป…
 
วันนี้แอดมินเลยต้องขอพาย้อนกลับไปในอดีต เพื่อไปสืบถึงเรื่องราวความรักของทั้งคู่ โดยเรื่องราวเริ่มตั้งแต่สมัยที่เจ้าชายชาห์ชะฮัน อายุเพียง 15 ปี เขาได้ไปที่งานมีนาบาซาร์ ซึ่งเป็นงานตลาดจำลองประจำปีของพระราชวัง งานนี้ก็จะมีเหล่าบรรดาสตรีผู้สูงศักดิ์ในพระราชวังมาร่วมสนุกกัน รวมไปถึงมาตั้งแผงขายสินค้าของตนเองอย่างสนุกสนาน ซึ่งพวกเหล่าบุรุษขุนนางต่างก็พากันมาเลือกซื้อของจากสาวๆ พร้อมหยอกล้อกันไปมา
 
ซึ่งระหว่างที่ชาห์ชะฮันเดินเล่นอยู่ เขาดันหันไปสะดุดตากับสาวสวยคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในแผงที่กำลังขายผ้าไหมและลูกปัดอย่างสนุกสนาน ชาห์ชะฮันเมื่อได้เห็นเธอคนนั้น ก็รู้สึกตะลึงกับความมีเสน่ห์ของเธอทันที เลยเดินเข้าไปที่แผงของเธอและทำท่าทีสนใจงานเป่าแก้วชิ้นหนึ่งแล้วถามเธอว่าชิ้นนี้เท่าไหร่ แต่เธอดันตอบกลับมาว่าชิ้นนี้มันแพงมากเมื่อเทียบกับคุณภาพของ จะซื้อจริงหรอ แต่ชาห์ชะฮันหาได้สนใจราคาไม่ เขาตัดสินใจซื้องานชิ้นนี้ในราคาที่สูงกว่าที่เธอตั้งไว้อีก พอซื้อเสร็จเขาก็เดินออกมาจากแผง พร้อมกับความรู้สึกที่ตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้แบบบอกไม่ถูก
 
จากนั้นไม่นานเขาก็สะกดรอยตามเธอ เที่ยวสืบข้อมูลว่าผู้หญิงคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใคร มาจากไหน จนในที่สุดก็ได้รู้ข้อมูลทั้งหมดว่าเธอมีชื่อว่า อรชุมันท์ พานุ เพคุม เป็นขุนนางชาวเปอร์เซีย ลูกสาวของอาซิฟ ข่าน ซึ่งอาซิฟมีตำแหน่งที่สำคัญมากในพระราชวัง เขาเป็นตัวแทนของจักรพรรดิ (ทำหน้าที่ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรและครัวเรือน) จากนั้นเมื่อได้รู้ทุกอย่างแล้วก็ยิ่งทำให้เหมือนได้รู้จักเธอมากขึ้น เขาเลยเข้าไปทำความรู้จักกับเธอ และคุยเล่นเที่ยวเล่นกันไปได้ช่วงหนึ่ง จนไม่นานชาห์ชะฮันก็ตัดสินใจไปบอกพ่อว่าเขาต้องการแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้มากๆ
 
ซึ่งคนเป็นพ่อด้วยความรักลูกก็ยินยอม ไม่ได้ขัดขวางความรักแต่อย่างใด แต่เพียงขอให้ลูกรอก่อนอีกสัก 2-3 ปี เพราะตอนนั้นทั้งคู่ยังเด็กเกินไปที่จะแต่งงานกัน
 
แต่พอเมื่อเวลาผ่านไป ด้วยธรรมเนียมในสมัยนั้น ชาห์ชะฮันจำเป็นต้องแต่งงานเพื่อการเมืองกับผู้หญิงอีก 2 คน แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่เคยเลิกคิดถึงและรอวันที่จะแต่งงานกับอรชุมันท์เลยซักวัน
 
อีก 2-3 ปีต่อมา ในที่สุดช่วงเวลาที่ทั้งคู่รอคอยก็มาถึง อรชุมันท์ได้แต่งงานเป็นภรรยาคนที่ 3 ของชาห์ชะฮัน ซึ่งทันทีที่แต่งงานนั้น เขาก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อให้แก่ อรชุมันท์ พานุ เบกุม เป็นชื่อ มุมตัซ มาฮาล มีความหมายว่า “ผู้ที่ถูกเลือก แห่งพระราชวัง” หรืออีกนัยหนึ่งก็สามารถแปลได้ว่า อัญมณีแห่งพระราชวัง เป็นการตอกย้ำถึงความรักอันมากล้นที่เขามีต่อเธอ
 
ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่แต่งงานกัน มุมตัซเป็นผู้หญิงที่ดูแลเอาใจใส่ชาห์ชะฮันดีมาก เป็นคนที่มีความอ่อนโยน มีไหวพริบดี ฉลาดสุดๆ โดยในระหว่างที่ทั้งคู่ครองรักกัน ด้วยความรักและไว้ใจ รวมไปถึงความเฉลียวฉลาดของมุมตัซ ทำให้มุมตัซมีอำนาจต่อราชสำนักในระดับหนึ่ง เธอสามารถตัดสินใจอะไรต่างๆ ได้ เช่น หากมีโครงการอะไรที่ต้องใช้เงิน แล้วมุมตัซไม่อนุมัติผ่าน โครงการต่างๆ ก็ไม่สามารถที่จะดำเนินต่อไปได้ ทำให้ข้าราชบริพารต่างพากันไม่ชอบใจว่าทำไมจักรพรรดินีคนนี้ถึงมีอำนาจนัก
 
ในช่วงชีวิตของทั้งคู่หลังจากแต่งงานกันมาประมาณ 18 ปี ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 14 คน และชาห์ชะฮันไม่มีลูกกับภรรยาคนอื่นอีกเลย ซึ่งในระหว่างที่ท้อง เกือบทุกครั้งมุมตัซก็ตามชาห์ไปยังสนามรบเพื่อเป็นกำลังใจให้กัน และคอยเป็นเพื่อนคู่คิดในการวางแผนทำศึกต่างๆ ทำให้ความรักของพวกเขาเติบโตยิ่งขึ้นไปอีก
 
แต่แล้ววันหนึ่ง…สิ่งสวยงามที่มันเคยอยู่กับเรามาตลอด ไม่ได้หมายความว่ามันจะคงอยู่ตลอดกาล มุมตัซได้เสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนหลังที่เธอคลอดลูกคนที่ 14 ในตอนนั้นโลกที่เคยเป็นสีชมพูของชาห์ชะฮันห์กลับแปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด
 
เขาแทบจะทนต่อความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว และเป็นระยะเวลา 2 ปีที่เขาโศกเศร้าพร้อมสั่งให้ราชสำนักของจักรพรรดิไว้ทุกข์ไปถึง 2 ปีเต็มๆ
 
และในช่วงเวลานี้เองที่เขาได้มีการสั่งให้สร้างทัชมาฮาล สุสานที่ทำจากหินอ่อนสีขาว สีแห่งสัญลักษณ์ของความรักอันบริสุทธิ์ เพื่อไว้เป็นที่รำลึกถึงภรรยาอันเป็นที่รักสุดหัวใจ
 
หลังจากสร้างทัชมาฮาลเสร็จ ชาห์ชะฮันห์ก็ถูกจับคุมขังโดยลูกของเขาเอง ซึ่งเหตุผลในการจับกุมครั้งนี้ นักประวัติศาสตร์บางคนกล่าวว่าเพราะสาเหตุมาจากที่เขามีแผนจะสร้างทัชมาฮาลสีดำตรงข้ามทัชมาฮาลของภรรยาอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมันจะต้องใช้งบมหาศาลในการสร้างเป็นอย่างมาก ลูกจึงไม่สามารถให้พ่อผลาญเงินของจักรวรรดิอย่างที่เคยเป็นมาได้อีก จึงสั่งคุมขังพ่อไว้ที่ป้อมแดง (แต่บางคนก็กล่าวว่าไม่มีอะไรมาอ้างอิงเรื่องราวทัชมาฮาลสีดำนี้ได้ มันอาจจะไม่ใช่เหตุผลแท้จริงที่ลูกจับพ่อขัง)
 

สุดท้ายนี้เวลาก็ผ่านพ้นไป 8 ปี ที่ชาห์ถูกคุมขังอยู่ในป้อมแดง และในทุกๆ วัน เขาจะมองออกไปนอกหน้าต่าง ชื่นชมทัชมาฮาลและคิดถึงมุมตัซตลอดเวลา จนช่วงสุดท้ายเขาได้เสียชีวิตลงในวัย 74 ปี และถูกนำไปฝังไว้ข้างๆ มุมตัซในทัชมาฮาลตลอดกาล

#TWCTravel #TWCIndia